หากินตามกาดนัดแย่ ขอทานวณิพกยังถอย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะมี พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 28 ก.ค.2559 พ.ร.บ.นี้ในมาตรา 13 ห้ามการขอทาน โดยกำหนดนิยาม คำว่า ขอทาน หมายถึง การขอเงิน หรือ ทรัพย์สินจากผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นการขอด้วยวาจา ข้อความ หรือการกระทำ ผู้ใดฝ่าฝืน จะถูกลงโทษตามมาตรา 19 จำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือ ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ มาตรา 22 กำหนดบทลงโทษ เอเย่นต์ ผู้จ้างวาน หรือแม้แต่ยุยง ให้ผู้อื่นขอทาน ต้องระวางโทษจำคุก ไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 3 หมื่นบาท หรือ ทั้งจำทั้งปรับ และโทษจะทวีคูณเป็นสองเท่า คือจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 5 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากผู้ขอทานนั้นเป็น เด็ก หญิงมีครรภ์ ผู้สูงอายุ หรือ คนพิการ
กฎหมายฉบับนี้ ยังให้นิยามคำว่า วณิพก แยกจากคำว่า ขอทาน อย่างชัดเจน โดยมาตรา 14 บัญญัติว่า การแสดงความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นการเล่นดนตรี หรือการแสดง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินหรือทรัพย์สิน ไม่ถือว่าเป็นการขอทาน แต่ต้องไปขึ้นทะเบียนหน่วยงานปกครองในพื้นที่ เพื่อรับบัตรประจำตัว และจะเปิดการแสดงที่ใดต้องแจ้งต่อท้องที่ขออนุญาตก่อน ก็ยังคงพบเห็นขอทาน วณิพกอยู่ทั่วเชียงใหม่
“นายก๋วม (นามสมมติ) ขอทานรายหนึ่ง ที่พบในกาดนัดย่านสันทราย เชียงใหม่ เล่าว่า เป็นชาวกัมพูชา มีใบเข้าเมืองถูกต้อง ที่มาทำอาชีพขอทานนั้น เพราะรายได้แต่ก่อนดี มีที่ลงตามกาดนัดที่รู้จักมักคุ้นกับพ่อค้า แม่ค้า ถ้ามี จนท.มาตรวจ ก็จะพยายามหลบหลีก อยู่รอดได้มานานหลายปี ที่เชียงใหม่มีเป็นกลุ่มๆ กระจายตามกาดนัด ยอมรับว่ารายได้ไม่ดี ตั้งใจเก็บเงินได้ก็จะกลับกัมพูชา
ด้าน จนท.พัฒนาสังคมฯ เชียงใหม่ ระบุว่า สังคมไทยใจดี ก็เลยทำให้มีกลุ่มขอทานเหลืออยู่ ซึ่งมีไม่มากปัจจุบันทั่วประเทศ มีราวๆ 4,618 คน เป็นขอทานไทย 2,927 คน ขอทานต่างด้าว 1,691 คน หากเป็นต่างด้าวจะผลักดันส่งกลับประเทศต้นทาง ส่วนคนขอทานไทย จะส่งเข้ารับการพัฒนาและฟื้นฟูศักยภาพทั้งทางร่างกาย จิตใจ สังคม และการประกอบอาชีพ โดยสถานคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ดูแลจัดการ
ทั้งนี้การจัดระเบียบคนขอทาน เป็นส่วนหนึ่งของการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติ มีการจัดตั้งกองทุนเพื่อพัฒนาคนไร้ที่พึ่งและคนขอทาน ที่ปัจจุบันมียอดเงินบริจาคแล้วจำนวนหนึ่ง หากพบเห็นคนขอทานและคนไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมงด้านผู้ค้าตามตลาด กาดนัดชุมชน หลายรายเปิดใจว่า ค้าขายสมัยนี้ไม่ดีเหมือนก่อน เพราะใครขายอะไรดี ก็จะแห่ขายเหมือนกัน ตัดราคา พากันเจ๊งระนาว ผู้ซื้อมีโอกาสเลือก ต่อรองราคาจนน่าเกลียด และพวกมีอาชีพหลักก็มาคาขายเป็นรายได้เสริม ทำให้กลุ่มที่ค้าขายเป็นรายได้หลัก ทำให้ครอบครัวยิ่งอยู่ยากลำบากกว่าเดิม ที่ว่าขายดีไม่ดีอยู่ที่ลูกค้า เรื่องจริง จัดกาดนัด ถนนคนเดิน คนจัดกาดรวยแต่ผู้ค้าอยู่ไม่ได้ก็ต้องทนอยู่

ร่วมแสดงความคิดเห็น