คืบหน้ากรณี รพ.นครพิงค์ ทำคนป่วยตกเตียง ล่าสุดลูกสาวจี้เปิดดูภาพกล้องวงจรปิด หลัง รพ.ร่อนหนังสือแจง อ้างหัวผู้ป่วยไม่ได้กระแทกพื้น

คืบหน้ากรณี รพ.นครพิงค์ ทำคนป่วยตกเตียง ล่าสุดลูกสาวจี้เปิดดูภาพกล้องวงจรปิด หลัง รพ. ร่อนหนังสือแจง อ้างหัวผู้ป่วยไม่ได้กระแทกพื้น ขณะที่หลานสาวที่อยู่ในเหตุการณ์ ยืนยันเห็นเต็มตา

จากกรณี ที่ผู้ป่วยรายหนึ่งเป็นชายอายุ 62 ปี ที่เข้ารับการรักษาตัวที่ รพ.นครพิงค์ จ.เชียงใหม่ ด้วยอา การเลือดคั่งในสมอง เนื่องจากประสบอุบัติเหตุรถ จ.ย.ย.ล้ม แล้วต่อมาครอบครัว ต้องการจะย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ ซึ่งปรากฏในวันที่ 22 ก.ย.61 ระหว่างที่จะมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วย โดยเตียงเข็นลงจากอาคาร ได้เกิดพับล้มทำหัวผู้ป่วยพาดพื้น ในช่วงเดียวกันกับที่ญาติผู้ป่วยที่จะมาเยี่ยมเห็นเหตุการณ์พอดี จึงได้มีการนำเรื่องราวที่เกิดขึ้น โพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้ทางรพ.พัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วย และขอให้เป็นกรณีตัวอย่าง ป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะเดียวกันอีก นอกจากนี้ ยังได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่สถานีตำรวจไว้เป็นหลักฐานด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวกลายเป็นประเด็นทางสังคม ที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ความคืบหน้าล่าสุด น.ส.แนน (นามสมมติ) อายุ 33 ปี ลูกสาวของผู้ป่วยชายอายุ 62 ปี ที่ประสบเหตุดังกล่าว เปิดเผยว่า เรื่องราวดังกล่าวที่เกิดขึ้น หลานสาวที่เป็นคนเห็นเหตุการณ์ เป็นผู้นำไปโพสต์ลงในโซเชียลมีเดีย เพื่อหวังให้เป็นกรณีตัวอย่างและอุทาหรณ์ สำหรับ รพ.ในการพัฒนาคุณภาพการดูแลผู้ป่วย ทั้งในส่วนของบุคลากรและอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้กับผู้ป่วยคนอื่นอีก และเป็นเรื่องที่ไม่ควรเกิดขึ้นใน รพ.ด้วย โดยยืนยันว่าไม่มีเจตนาที่จะทำให้ รพ.เสื่อมเสียชื่อเสียง

ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นกับพ่อตัวเองนั้น ยอมรับว่าทำให้เกิดความวิตกกังวลเป็นอย่างมากว่า จะกลายเป็นการซ้ำเติมอาการของพ่อที่รุนแรงอยู่แล้ว ให้แย่ลงกว่าเดิม โดยหลังเกิดเหตุทาง จนท.รพ.ได้ขอโทษ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าสาเหตุเป็นเพราะอะไร และหลังจากนั้นได้มีการนำกระเช้ามาเยี่ยมพ่อที่ รพ. อย่างไรก็ตามจนถึงเวลานี้ยังไม่มีผู้บริหาร รพ.ติดต่อมาพูดคุย หรือ แจ้งว่าจะแสดงความรับผิดชอบใดๆ อย่างเป็นทาง การทั้งสิ้นส่วนกรณีที่ล่าสุดทาง รพ.นครพิงค์ มีการทำเอกสารชี้แจงแจ้งผ่านสื่อมวลชนว่า กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวหัวของผู้ป่วยไม่ได้กระแทกพื้น เพราะมี จนท.ใช้มือรองรับไว้ และสาเหตุที่ต้องเจาะคอเพื่อสอดท่อเครื่องช่วยหายใจ เป็นเพราะอาการเดิมอยู่แล้ว และเพื่อการเคลื่อนย้าย รพ.นั้น น.ส.แนน บอกว่า เห็นการชี้แจงดังกล่าวแล้ว จึงได้มีการถามย้ำกับหลานสาว ที่อยู่ในเหตุการณ์และเป็นผู้โพสต์เรื่องราวดังกล่าว ทางหลานสาวยังคงยืนยันว่าเห็นหัวของพ่อกระแทกพื้น ซึ่งขัดแย้งกับสิ่งที่ รพ.ชี้แจง

ทั้งนี้หากเป็นไปได้อยากเรียกร้อง ให้ทาง รพ.มีการเปิดหลักฐานกล้องวงจรปิด ที่ติดตั้งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ น่าจะเป็นการดีที่สุด สำหรับอาการของพ่อนั้น ล่าสุดดีขึ้นระดับหนึ่งหลังจากที่เกิดเหตุการณ์และย้ายไปรักษาตัวที่ รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ แต่ยังบอกไม่ได้ว่าต้องรักษาตัวอยู่อีกนานเท่าใด