ผู้เสียหายยืนกราน แจ้งข้อหาพยายามฆ่า 2 หนุ่ม สี่ล้อแดงควงมีดขู่ ขณะที่ทั้ง 2 ยังยืนยันไม่ได้ลงมือทำร้าย

ผู้เสียหายยืนกราน แจ้งข้อหาพยายามฆ่า 2 หนุ่ม สี่ล้อแดงควงมีดขู่ ขณะที่ทั้ง 2 ยังยืนยันไม่ได้ลงมือทำร้าย ด้าน จนท.เร่งตรวจสอบหลักฐานข้อเท็จจริงที่เกิดเหตุ ความคืบหน้ากรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊คชื่อ “Boylanna Witnipat Vorasampurana ” ได้โพสต์เรื่องราวพร้อมภาพและคลิปวิดีโอ เหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกับคนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างช่วงเช้ามืด เวลาประมาณ 04.00 น. ของวันที่ 7 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยในคลิปมีชาย 2 คน ลงมาจากรถซึ่งชายใส่เสื้อสีขาวใช้วัตถุบางอย่างพันที่มือ ส่วนชายใส่เสื้อสีดำถืออาวุธมีดมาด้วย แล้วตรงเข้ามาก่อเหตุ แต่เจ้าตัวได้วิ่งหลบหนีและเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ช้างเผือก และช่วงเย็นของวันเดียวกันนี้ เวลาประมาณ 16.00 น. ทางเจ้าของโพสต์ซึ่งทราบชื่อคือ นายวิทย์นิพัทธ์ วรสัมปุรณะ อายุ 37 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความอีกครั้งเพื่อดำเนินคดีกับชายทั้ง 2 คน ภายในคลิปที่หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเบาะแสจนกระทั่งเจอตัว ทราบชื่อคือ นายพันกร แซ่ฉิ่ง อายุ 32 ปี ชาวอำเภอเชียงดาว เสื้อดำ (ถือมีด) และ นายเอกชัย บุญจันทร์ อายุ 24 ปี ชาวอำเภอเชียงดาว เสื้อขาว ที่ภายหลังได้เข้ามารายงานตัวและให้ปากคำกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเช่นกัน โดยมี พ.ต.ท.ชาญชัย จังวัง สารวัตรสอบสวน สภ.ช้างเผือก เป็นเจ้าของคดี และได้ทำการสอบสวนทั้งสองฝ่ายพร้อมทั้งรวบรวมข้อมูลไว้เป็นหลักฐานทั้งหมด
ขณะที่ความคืบหน้าล่าสุดวันนี้ (8 ต.ค.61) รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังการสอบปากคำของทั้ง 2 ฝ่าย เบื้องต้นทราบว่ายังให้การไม่ตรงกันบางส่วนในระหว่างเกิดเหตุ โดยจากการสอบสวนทางด้าน นายวิทย์นิพัทธ์ วรสัมปุรณะ อายุ 37 ปี เจ้าของคลิปดังกล่าวมีการยืนยันว่าชายที่ปรากฎภายในคลิปทั้ง 2 คนนั้น ได้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายตน พร้อมทั้งได้ใช้อาวุธมีดฟันมาด้วยแต่ระหว่างที่ฟันนั้นไม่โดนเนื่องจากตนถูกชายเสื้อขาวเอาเท้ายันอก ก่อนจะวิ่งหลบหนีแล้วให้เพื่อนที่ขับรถซึ่งเป็นรถคันที่บันทึกเหตุการณ์ไว้ได้วนมารับอีกทีภายหลังก่อนจะเข้าแจ้งความ ซึ่งทางเจ้าตัวยืนยันว่าจะเอาเรื่องชายที่ก่อเหตุทั้ง 2 คน ให้ถึงที่สุดและได้แจ้งดำเนินคดีกับทั้ง 2 คนในข้อหาพยายามฆ่าด้วย โดยให้เหตุผลว่า การกระทำของทั้ง 2 คนนี้เป็นการกระทำที่อุกอาจและเกินกว่าเหตุ ไม่เพียงแต่พกพาอาวุธแล้วแต่ยังได้ใช้อาวุธดังกล่าวมาก่อเหตุโดยการจะฟัน ซึ่งหากดดนขึ้นมาจริงๆ ตนก็อาจเสียชีวิตได้ และแม้ว่าวานนี้อีกฝั่งจะมากล่าวขอโทษก็ตาม แต่ตนยืนกรานว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างและไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีก แต่ในขณะที่อีกฝ่ายคือ นายพันกร แซ่ฉิ่ง อายุ 32 ปี เสื้อดำ (ถือมีด) และ นายเอกชัย บุญจันทร์ อายุ 24 ปี เสื้อขาว ยืนยันว่าในระหว่างเกิดเหตุไม่ได้มีการลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหายแต่อย่างใด โดยนายเอกชัย อ้างว่าวัตถุที่ใช้พันมือนั้นคือเนคไท ส่วนนายพันกร ที่ถือมีดก็ไม่ได้ลงมือฟัน เพียงแค่ถือไปข่มขู่เท่านั้น ก่อนที่ผู้เสียหายจะรีบวิ่งหลบหนี และได้อ้างว่าผู้เสียหายนั้นได้มีการตะโกนด่าตนก่อนจึงเกิดความโมโหแล้วจอดรถลงมาก่อเหตุดังกล่าว แต่ยังคงยืนยันว่าไม่ได้ใช้อาวุธมีดไล่ฟันผู้เสียหายแต่อย่างใด ซึ่งหลังเกิดเหตุก้รู้สึกสำนนึกผิดกับสิ่งที่ได้กระทำลงไป อย่างไรก็ตามเกี่ยวกับกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ภายหลังจากทั้ง 2 ฝ่ายได้ให้ปากคำกับทาง พ.ต.ท.ชาญชัย จังวัง สารวัตรสอบสวน สภ.ช้างเผือก แล้วนั้นก็ได้แยกย้ายกันกลับไป โดยทางผู้เสียหายยังคงยืนกรานที่จะแจ้งดำเนินคดีกับอีกฝ่ายในข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งในเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกข้อมูลไว้ แต่ยังต้องรอผลการตรวจสอบหลักฐานและข้อเท็จจริงเพิ่มเติมในที่เกิดเหตุก่อน โดยอาจจะมีการสอบสวนพยานแวดล้อมในที่เกิดเหตุเพิ่มเติม รวมทั้งการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดสาธารณะที่อยู่ในที่เกิดเหตุ เพื่อตรวจสอบว่าทั้ง 2 ฝ่ายให้การตรงกับเหตุการณืจริงหรือไม่ ก่อนที่จะมีการสอบสวนอีกครั้งและตัดสินดำเนินคดีต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น