รู้แล้วจะอึ้ง!! ตามหา “มะลื่น” อัลมอนด์เมืองไทย มีสรรพคุณทางยาที่มองข้าม

อัลมอนด์เมืองไทย หรือ เม็ดกระบก เมื่อเอ่ยถึงชื่อนี้แล้วเชื่อได้เลยว่า คนรุ่นใหม่แทบไม่มีใครรู้จักอย่างแน่นอน ทางชาวเหนือล้านนาเรียกมันว่า “บ่าลื่น หรือมะลื่น” มีเรียกชื่อตามท้องถิ่นแต่ละท้องถิ่นหลายชื่อได้แก่ หมักลื่น ซะอัง หลักกาย หมากบก หมากกระบก จะบก เป็นต้น มักพบได้ตามป่าดิบแล้ง ป่าชาย หาด ป่าเบญจพรรณ ป่าหญ้า และป่าแดง โดยมีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นผลัดใบขนาดใหญ่ ใบเดี่ยวรูปไข่ ดอกเป็นช่อสีเขียวอ่อน ผลแบนกลมรีสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เมล็ดเดี่ยวเปลือกแข็ง เนื้อในสีขาว

เม็ดบ่าลื่น หรือ มะลื่น ที่สุกมีสีเหลืองที่ร่วงหล่นลงมาจากต้นในป่า เป็นผลไม้ที่สัตว์ป่าชอบกิน รวมถึงฝูงวัว-ควาย ที่ชาวบ้านปล่อยเลี้ยงในป่า พอกลับกลับเข้าคอกตอนกลางคืน วัว-ควายจะเคี้ยงเอื้องคายเม็ดมะลื่นออกมา ทางเจ้าของก็จะเก็บมารวมไว้ นำไปตากแห้งแล้วก็จะกระเทาะเปลือกเอาเนื้อข้างใน นำไปคั่วกินเป็นอาหารว่าง ซึ่งเปลือกเนื้อมีสีน้ำตาล เนื้อในสีขาวมีรสชาติมันติดขมเล็กน้อยพอๆกับเม็ดอัลมอนด์ของต่างประเทศ เลยตั้งชื่อกันว่า อัลมอนด์เมืองไทย และยังมีสรรพคุณทางยาช่วยบำรุงสมอง บำรุงหัว ใจ รักษาริดสีดวงจมูก บรรเทาอาการหอบหืด ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย บำรุงไต บำรุงเส้นเอ็น แก้เส้นเอ็นพิการ บำรุงไขข้อกระดูก แก้ข้อขัด บำรุงระบบประสาทและสมอง
ที่สำคัญป้องกันโรคความจำเสื่อม บำรุงหัวใจ และป้องกันมะเร็งเต้านม กินได้ทุกเพศทุกวัย ส่วนใหญ่แล้วจะพบเห็นเม็ดมะลื่นคั่วสุก แม่ค้าของป่าจะนำมาวางขายตามแผงขายของป่าทั่วไป ในราคาที่ไม่แพง เพียงถุงละ 20 บาทเท่านั้น

ทางผู้สื่อข่าวเชียงใหม่นิวส์ออนไลน์ ได้ออกติดตามหา “เม็ดมะลื่น” ในพื้นที่ป่า อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน พบว่าในป่ามีต้นมะลื่นอยู่โดยทั่วไป ซึ่งช่วงนี้ผลมะลื่นกำลังสุกมีสีเหลือง ร่วงหล่นอยู่เต็มพื้นดินมีผลเน่าเหลือแต่เมล็ดอยู่เกลื่อน และมีร่องรอยของชาวบ้าน ที่ได้มาเก็บเมล็ดมะลื่นไปก่อนหน้านี้เช่นกัน อย่างไรก็ดีถือได้ว่าเม็ดมะลื่นเป็นผลผลิตทางธรรมชาติที่น่าสนใจ มีรสชาติดีและยังมีสรรพคุณทางยาตามตำรับยาแพทย์แผนโบราณอีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น