ห้ามสอบเข้าอนุบาล-ป.1 เด็กไทยได้สิทธิเรียนฟรี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายกลุ่มผู้ปกครองในเชียงใหม่ และเครือข่ายสภาองค์กรครอบครัว ตลอดจนคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานแต่ละกลุ่มโรงเรียน ขานรับการแก้ไขร่าง พ.ร.บ. การพัฒนาเด็กปฐมวัย ประเด็นการยกเลิกการสอบเข้าอนุบาล และป.1
โดยหันไปใช้วิธีการอื่น ที่ไม่ส่งผลกระทบกับเด็กแทน ด้านกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิ สถาบันสุขภาพจิตเด็กและวัยรุ่นราชนครินทร์ หลายจังหวัด ยืนยันว่า ทุกภาคส่วนในสังคม โดยเฉพาะกลุ่มที่ติดตามนโยบาย โครง การพัฒนาการเด็ก เห็นด้วยกับการออกกฎหมาย ที่ห้ามไม่ให้มีการจัดสอบเข้าอนุบาลหรือ ป.1 ซึ่งถ้าบังคับใช้แล้วจะเป็นผลดีต่อเด็กไทยอย่างมาก เด็กช่วงวัยไม่เกิน 8 ขวบ หรือช่วงชั้น ป.1 ไม่ควรมีการสอบแข่งขันใดๆ แต่ควรเน้นทักษะการใช้ชีวิต
ในขณะที่ สพฐ.ในพื้นที่จังหวัดต่างๆทั่วเขตภาคเหนือ ไม่ว่าจะเชียงใหม่,เชียงราย,ลำพูน ระบุว่า อาจมีข้อกังวลของผู้ปกครองที่ต้องการเข้าถึงเงื่อนไข ตามที่สังคมรับรู้คือ การบริจาค สนับสนุนงบเพื่อพัฒนาสถานศึกษา ซึ่งไม่แตกต่างจากการจอง การซื้อที่เรียนให้ลูกๆ กระบวนการเหล่านี้ผู้บริหารสถานศึกษาทุกแห่งต้องถือปฏิบัติตามกรอบที่ กระทรวงศึกษาธิการกำหนด
โดยเบื้องต้นทุกช่วงชั้นต้องมีจำนวนนักเรียนต่อห้องในระดับอนุบาล-ประถม-มัธยม ตามที่กำหนด หากจะบริจาคต้องทำอย่างเปิดเผย เป็นไปตามโควต้า สัดส่วนที่มีให้เท่านั้นทั้งนี้ทางออกของการแก้ปัญหา เพื่อเพิ่มโอกาสกลุ่มผู้ปกครอง ที่ไม่มีกำลังทรัพย์พร้อมจะจ่ายเงินเป็นหมื่น เป็นแสน จนถึงหลักล้าน ให้ลูกเข้าเรียนในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง กลุ่มโรงเรียนสาธิต นั้นเครือข่ายผู้ปกครองในเชียงใหม่ เสนอว่า ต้องประกาศออกมาให้ชัดเจน ที่ผ่านๆมา ต้องยอมรับความจริงว่ามาตร ฐานคุณภาพโรงเรียนทั่วประเทศ แตกต่างกัน โรงเรียน สถานศึกษา ในชุมชน หมู่บ้าน ตำบลไม่น้อย ต้องปิดตัวลง ยุบรวม หรือปล่อยทิ้งร้างไป
เนื่องจากหลายสาเหตุ อาทิ ผู้ปกครองนิยมส่งลูกๆไปเรียนในเมือง ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง เพื่อประกันคุณภาพ ความมั่นใจให้ลูกๆสามารถก้าวต่อไป ในทางเลือกของการศึกษาในระดับที่สูงขึ้น เพราะกว่าสถานศึกษาเหล่านั้น จะเป็นที่ยอมรับ มีชื่อเสียงมีคุณภาพ จนเป็นโรงเรียนซึ่งมีอัตราการแข่งขันสูง ก็เพราะมีแนวทางพัฒนาหลายมิติเข้ามา มีส่วนร่วมทั้งคณะครูอาจารย์ ผู้บริหาร คณะกรรมการโรงเรียน ,ศิษย์เก่า,เครือข่ายผู้ปกครอง โดยการบริจาคก็มีส่วนสำคัญ
อดีตผู้บริหารโรงเรียนดังเชียงใหม่ กล่าวว่าระบบการศึกษาไทย ใช้เวลาเรียนในระบบมากเกินความจำเป็น เน้นท่องจำ มากกว่าจะเสริมสร้างทักษะ การเรียนเพื่อชีวิต ระบบการแข่งขัน ตั้งแต่ระดับอนุบาล,ประถม,มัธยม มีคำถามมานานและค่อนข้างตอบยาก ว่าสามารถพลิกผัน สร้างอนาคตที่มั่นคง มั่งคั่งให้เด็กไทยทุกคนจริงหรือสิทธิพื้นฐาน ที่เด็กไทย มีกำหนดในรัฐธรรมนูญฯชัดเจนว่า ต้องได้รับตั้งแต่การเริ่มต้น ในระบบการศึกษา ไม่ควรมีเส้นแบ่ง สิ่งขวางกั้น ปิดทางโอกาส จากระบบแข่งขัน ที่ไม่สมเหตุผล เด็กๆ ควรได้รับการวางรากฐานที่ดีของชีวิต ด้วยระบบประกันคุณภาพ มาตรฐานการศึกษา อย่างเท่าเทียมทุกชนชั้น ทุกคน ในสังคมไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น