อุบัติเหตุ 3 วันซ้อน แยกหนองประทีป หลังสองหนุ่มสาวพุ่งตกทางลอดดับคู่

อุบัติเหตุ 3 วันซ้อน แยกหนองประทีป หลังสองหนุ่มสาวพุ่งตกทางลอดดับคู่ ขณะที่พยานเผยพบเห็นเหตุหลายครั้งแล้วที่จุดเดิม ชี้เนื่องจากไฟส่องสว่างไม่พอและรถขับเร็ว

จากกรณีที่เมื่อวันที่ 27 ต.ค.61 เพจเฟซบุ๊ก “กลุ่มงานจราจร ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่” เผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่บริเวณแยกหนองประทีป ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ตำบลท่าศาลา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่บันทึกเหตุการณ์ช่วงเช้ามืดวันที่ 27 ต.ค.61ที่รถยนต์คันหนึ่งที่ขับมาด้วยความเร็วแล้วเสียหลักพุ่งชนขอบถนนด้านบนทางลอดแล้วเสียหลักพลิกไปมาหลายตลบตกลงไปในอุโมงค์ลอดทางแยก ซึ่งจากเหตุการณ์กล่าวทำให้มีผู้เสียชีวิต 2 คน ทราบชื่อในเวลาต่อมาว่าคือนายพีระพงษ์ มัณยานนท์ อายุ 25 ปี อยู่บ้านเลขที่ 16 ซอยหทัยราษฎร์ 29 แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพมหานคร และรางสาวสุภาวดี ศรีวิชัย อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 56 หมู่ 3 ต.ท่าเดื่อ อ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ ส่วนรถที่เกิดเหตุเป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อมาสด้า สีแดง หมายทะเบียนแดงหมายเลข ล-6292 กรุงเทพมหานคร
รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวแล้วปรากฏว่าต่อมาช่วงเช้ามืดวันที่ 28 ต.ค.61 และวันที่ 29 ต.ค.61 ได้เกิดอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันขึ้นที่บริเวณจุดเดียวกันอีกทำให้เท่ากับว่าที่จุดดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุขึ้นต่อเนื่องกัน 3 วันติดต่อกัน เพียงแต่ว่าใน 2 ครั้งล่าสุด ไม่มีผู้เสียชีวิตและรถยนต์ไม่ได้ตกลงไปในอุโมงค์ทางลอดแยกหนองประทีปเหมือนเหตุที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 27 ต.ค.61 โดยคนขับได้รับบาดเจ็บและรถยนต์ได้รับความเสียหาย
ทั้งนี้จากการสอบถามนายคมกฤช ทับทิม อายุ 45 ปี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย บริษัทเอกชน ซึ่งเป็นพยานผู้เห็นเหตุการณ์รถยนต์เกิดอุบัติเหตุชนเกาะกลางแบ่งช่องทางจราจรแล้วพุ่งตกลงไปในอุโมงค์ เปิดเผยว่า หลังจากที่เกิดเหตุวันที่ 27 ต.ค.61 แล้ว ในช่วงเช้ามืดวานนี้(28 ต.ค.61) และวันนี้(29 ต.ค.61) ได้เกิดอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันขึ้นอีกที่จุดเดิม และเป็นช่วงเวลาใกล้เคียงกันด้วย โดยรถที่เกิดเหตุนั้น คาดว่าขับมาด้วยความเร็วและคนขับรถไม่ชินทางเหมือนกัน เพียงแต่ว่าใน2ครั้งนี้ไม่มีผู้เสียชีวิตและรถยนต์ไม่ได้ตกลงไปในอุโมงค์
ทั้งนี้นายคมกฤช บอกด้วยว่า ตัวเองเพิ่งมาประจำอยู่ที่จุดนี้ได้ประมาณ 10 วัน โดยจะประจำการณ์ในช่วง 20.00-08.00น. ปรากฏว่าแค่ในช่วงเวลาสั้นๆ แต่พบอุบัติเหตุลักษณะเดียวกันนี้และที่จุดเดียวกันนี้เกิดขึ้น 4 ครั้งแล้ว สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นในบริเวณดังกล่าวนั้น โดยส่วนตัวมองว่า น่าจะเนื่องจากบริเวณดังกล่าวค่อนข้างมืดเพราะไฟส่องสว่างถนนเสียและไม่มีป้ายหรือสัญญาณไฟเตือน ทำให้คนขับรถไม่เห็นเกาะกลางแบ่งช่องทางจราจรประกอบกับไม่ชินทางและขับมาด้วยความเร็วสูงโดยเฉพาะช่วงกลางดึกที่ถนนโล่ง จึงเกิดอุบัติเหตุขึ้น ทั้งนี้เห็นว่าทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน่าจะมีการปรับปรุงแก้ไขปัญหาด้วยการลดปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว โดยเฉพาะการเพิ่มไฟส่องสว่างและป้ายสัญญาณเตือน แต่ที่สำคัญที่สุดก็คือผู้ขับขี่ที่ต้องขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท และไม่ขับขี่ด้วยความเร็วสูงเกินไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น