เปิดใจสาวโพสต์โซเชียล!! โดนหนุ่มร้านเช่ารถที่อยู่ติดกัน หาเรื่องชกต่อยจนบาดเจ็บ แถมยังตามข่มขู่ วิงวอนขอความเป็นธรรม

เปิดใจสาวโพสต์โซเชียล โดนหนุ่มร้านเช่ารถที่อยู่ติดกัน หาเรื่องชกต่อยจนบาดเจ็บ แถมยังตามข่มขู่ วิงวอนขอความเป็นธรรม เผยยังหวาดกลัวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

จากกรณีที่สมาชิกผู้ใช้เฟสบุ๊ครายหนึ่งชื่อว่า “Ann Rental ” ได้โพสต์คลิปวีดีโอเหตุการณ์ที่ชายคนหนึ่งซึ่งเปิดร้านเช่ารถจักรยานยนต์ติดกันกับร้านของตัวเองบริเวณ ถ.ชัยภูมิ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ ได้ก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงสาวรายหนึ่งที่ทำงานในร้านจนได้รับบาดเจ็บ โดยเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 30 ต.ค.61 ที่ผ่านมา

ซึ่งภายในคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งบริเวณร้านที่เกิดเหตุเป็นเหตุการณ์ที่ชายคนดังกล่าวได้มีการตะโกนหาเรื่องหญิงคู่กรณีที่นนั่งอยู่บริเวณหน้าร้าน ก่อนที่จะมีปากเสียงกันและในเวลาต่อมาชายคนดังกล่าวได้เดินตรงเข้ามาทำร้ายร่างกายด้วยการชกต่อย และกระชากศีรษะหลายครั้ง จนกระทั่งมีคนในระแวกรวมทั้งเจ้าของโพสต์เข้าไปห้ามปราม นอกจากนี้ยังมีคลิปเหตุการณ์ที่ชายคนดังกล่าวได้ไปหาเรื่องพนักงานร้านสะดวกซื้อที่อยู่ติดกัน โดยมีการพูดจาด้วยวาจาที่หยาบคายและมีการแสดงท่าทางข่มขู่พนักงาน เนื่องจากไม่พอใจที่ถูกด่าทอว่าได้ไปก่อเหตุทำร้ายร่างกายหญิงสาวตามที่ปรากฎภายในคลิป ซึ่งเมื่อคลิปทั้งสองเหตุการณ์ปรากฎลงไปในโลกโซเชียลแล้วนั้นมีผู้ที่เห็นเรื่องราวดังกล่าวต่างวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำของชายในคลิป อีกทั้งมีการต่อว่าด่าทอและมีการแชร์เรื่องราวออกไปเป็นจำนวนมาก

ขณะเดียวกันในเวลาต่อมาทางผู้สื่อข่าวได้เข้าไปติดตามเรื่องราวที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ จนกระทั่งทราบว่าเจ้าของโพสต์คนดังกล่าวคือ น.ส.สุภาพร แก้วบุดสา อายุ 35 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของร้านเช่ารถที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งได้เล่าว่า ในวันเกิดเหตุนั้น น้องสาวตนที่ถูกทำร้ายตามที่ปรากฎภายในคลิป ได้นั่งเล่นอยู่บริเวณหน้าร้าน ซึ่งขณะนั้นตนอยู่ภายในร้าน แล้วต่อมาได้ยินเสียงคนทะเลาะกันจึงออกมาดูก็พบว่าน้องสาวตนถูกชายซึ่งเป็นลูกเจ้าของร้านเช่ารถที่อยู่ติดกันนั้นทำร้ายอยู่ ตนจึงเข้าไปห้ามปราม โดยระหว่างนั้นก็ถูกลูกหลงเข้าที่บริเวณใบหน้าจนได้รับบาดเจ็บเช่นกัน

จากนั้นหลังเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวันที่ 30 ต.ค.61 ก็ได้เดินทางเข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ โดยชายคนดังกล่าวได้ยินยอมจ่ายค่าเสียหายให้กับน้องสาวตนเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท แต่หลังจากนั้นถัดมาอีกวันคือวันที่ 31 ต.ค.61 ชายคนดังกล่าวก็ได้ไปหาเรื่องพนักงานร้านสะดวกซื้อที่อยู่ติดกันเนื่องจากไม่พอใจที่มีการเอาเรื่องของตนไปพูดกัน พร้อมทั้งมีการข่มขู่ตามที่ปรากฎภายในคลิป ตนจึงได้ไปแจ้งความกับตำรวจอีกครั้ง แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้เพียงลงบันทึกประจำวันและทำเหมือนไม่สนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น อีกทั้งชายคนดังกล่าวยังมีการขับรุจักรยานยนต์วนไปมาตามคูเมือง และได้มีการเบิ้ลรถเสียงดัง เหมือนกับต้องการหาเรื่อง จนทำให้ตอนนี้ตนและน้องสาวรวมไปถึงคนที่เกี่ยวข้องเกิดความกลัว

น.ส.สุภาพร บอกอีกว่า ส่วนสาเหตุที่ตนนำคลิปเหตุการณ์ดังกล่าวมาโพสต์ลงโซเชียลนั้นก็เพื่อต้องงการที่จะเรียกร้องความเป็นธรรม เนื่องจากว่าหลังจากที่ชายคนดังกล่าวขึ้งโรงพัก ก็จ่ายเงินเพียง 4,000 บาท เพื่อต้องการให้เรื่องราวที่เกิดขึ้นยุติลง ซึ่งตนมองว่าไม่ถูกต้อง และอยากเรียกร้องความเป็นธรรมว่าหลังเกิดเรื่องขึ้นผุ้กระทำผิดควรจะสำนึก มีเมตตา และไม่ใช่มากระทำการในลักษณะข่มขู่คนอื่นอีก แม้ว่าระหว่างที่ขึ้นโรงพักนั้นทางเจ้าตัวจะขอโทษและยกมือไหว้แล้วก็ตาม แต่การกระทำนั้นกลับสวนทางเพียงโยนเงินแค่ 4,000 บาท แล้วก็จบเรื่องโดยที่ไม่มีความสำนึกผิดแต่อย่างใด ตนจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวที่เกิดขึ้นนี้ลงในโซเชียล เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะที่ทางด้าน น.ส.กรรณิการ์ พรมมา อายุ 38 ปี ผู้ถูกทำร้ายร่างกาย เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้นั่งอยู่หน้าร้านตามปกติ แต่จู่ๆ ชายที่ปรากฎในคลิปก็ตะโกนถามตนว่า มองหน้าทำไม พร้อมทั้งต่อว่าด้วยคำหยาบคาย ตนจึงพูดตอบโต้กลับไป ก่อนที่ชายคนดังกล่าวจะกลับเข้าไปในร้าน แล้วซักพักก็เดินออกมาพร้อมกับพูดหาเรื่องอีกครั้ง จนตนต้องพูดตอบโต้กลับไป จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ขับรถซึ่งตนคิดว่าจะออกไปแล้วแต่กลับจอดรถแล้วตรงเข้ามาชกตนโดนเข้าที่เบ้าตา แล้วก็กระชากตนลงจากรถแล้วรัวหมัดใส่ ตามที่ปรากฎในคลิปจนตนได้รับบาดเจ็บ โดยระหว่างนั้นก็มีคนเข้ามาห้ามปรามและได้รับบาดเจ็บตามไปด้วย

โดยหลังเกิดเรื่องตนก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน แต่หลังจากที่ชายคนดังกล่าวเสียค่าปรับและค่าทำขวัญแล้ว ก็ไม่ได้มีความสำนึกผิดอะไรแต่อย่างใด และยังคงมีพฤติกรรมขมขู่ จนทำให้ตนหวาดกลัวว่าจะถูกทำร้ายอีก นอกจากนี้ก้กลัวว่าลูกสาวของตนที่ทำงานอยู่ร้านสะดวกซื้อที่ชายคนดังกล่าวไปหาเรื่องจะถูกทำร้ายตามไปด้วย อย่างไรก็ตามจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นตนจึงอยากวิงวอนให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่านี้ เนื่องจากที่ตนเป็นผู้หญิง แต่กลับมาถูกกระทำในลักษณะดังกล่าว ทั้งๆ ที่ตนกับคู่กรณีก้ไม่เคยรู้จักกันมาก่อนแต่อย่างใด และอยากขอความยุติธรรมและความปลอดภัยกันตัวเอง รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องและคนที่รู้จักด้วย

ขณะเดียวกันผลข้างเคียงจากการที่ตนถูกทำร้ายร่างกายก็ทำให้หูซ้ายไม่ค่อยได้ยิน อีกทั้งตาข้างซ้ายที่ถูกชกก็ยังไม่หายดี และรู้สึกว่ามองไม่เหมือนปกติ อีกทั้งนิ้วมือก็ได้รับบาดเจ็บกระดูกแตก ต้องรักษาตัวต่อ แต่ตนกลับได้รับค่าเสียหายแค่ 4,000 บาทจากคู่กรณี โดยเหมือนกับว่าจ่ายเพื่อให้เรื่องจบไปและไม่ได้มาเหลียวแลแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามจากอาการบาดเจ็บตนก็ได้มีการลงบันทึกไว้ว่าหากมีผลกระทบต่อร่างกายอีกก็สามารถนำใบรับรองแพทย์ หรือใบรักษาค่าพยาบาลไปยื่นเบิกกับคู่กรณีได้ แต่นั่นก็ไม่คุ้มค่ากับที่ตนต้องมาเจ็บตัว และเสียงที่อาจเกิดความพิการขึ้นได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น