แจ้งจับอาจารย์สาว ม.ดัง ระดมทุนอ้างปล่อยกู้ก่อนเบี้ยวคืนเงินต้น เพื่อนอาจารย์-นักธุรกิจ ถูกหลอกสูญกว่า 10 ล้านบาท เผยจุกอกถูกคนกันเองโกง ส่วนอาจารย์สาวยื่นใบลาออกแล้ว อ้างจะไปทำงานต่างประเทศหาเงินชดใช้
อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยชื่อดังย่านถนนห้วยแก้ว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ นำหลักฐานการแจ้งความที่ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยกับสื่อมวลชนให้ช่วยเตือนภัยสังคม แฉพฤติกรรมอาจารย์สาว อายุ 33 ปี คนหนึ่งที่ทำการฉ้อโกง ทำให้เพื่อนอาจารย์ร่วมมหาวิทยาลัยนับสิบคน รวมทั้งบุคคลภายนอกอีกหลายคนต้องเสียเงิน รวมกันแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ล้านบาท
อดีตอาจารย์ผู้เสียหาย เล่าว่า รู้จักกับ น.ส.ก้อย ( นามสมมุติ) เพราะเคยสอน น.ส.ก้อย ตั้งแต่สมัยเรียน ปวช.อายุ 17 ปี จนกระทั่งเรียนจบและกลับมาเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัย ตลอดเวลาสนิทสนมกันมาก กระทั่งสองปีที่ผ่านมา น.ส.ก้อย ชักชวนตนเองและเพื่อนอาจารย์ในมหาวิทยาลัย ร่วมลงทุนธุรกิจปล่อยเงินกู้ระยะสั้น จะให้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยร้อยละ 10 – 15 ต่อเดือน โดยยืนยันว่าเป็นธุรกิจถูกกฎหมาย มีหนังสือสัญญาถูกต้อง จึงสนใจร่วมลงทุนเพราะเห็นว่าอดีตลูกศิษย์สาวคนนี้เรียนจบมาด้านกฏหมาย มั่นใจว่าจะรักษาผลประโยชน์ได้ จึงลงทุนเป็นเงิน 4 แสนบาท สองเดือนแรกได้ดอกเบี้ยมากว่า 5 หมื่นบาท
ต่อมา น.ส.ก้อย ได้ระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจ ระบุมีลูกค้าที่เป็นข้าราชการ พยาบาล หลายคนที่ต้องการเงินกู้ ทำให้มีหลายคนเพิ่มเงินลงทุน เพราะเห็นว่าได้ผลตอบแทนตรงตามที่ได้ตกลงไว้และตลอดเวลาของการทำธุรกิจนี้ น.ส.ก้อย ยังได้แสดงบัญชีลูกหนี้ ยอดเงิน และ ผลตอบแทน ผ่านไลน์กล่มให้ผู้ร่วมลงทุนได้ตรวจสอบอย่างชัดเจน ทำให้มีคนสนใจร่วมลงทุนอย่างต่อเนื่อง คาดระดมทุนได้กว่า 20 ล้านบาท
กระทั่งไม่กี่เดือนที่ผ่านมา มีบางรายเริ่มไม่ได้ดอกเบี้ย บางคนถอนเงินลงทุนคืนแต่ก็ไม่ได้ ขณะที่ น.ส.ก้อย ยังอ้างว่ากลุ่มลูกหนี้ขอลดดอกเบี้ย กลุ่มที่ร่วมลงทุนก็ไม่ขัดข้อง แต่ขอดูบัญชีลูกหนี้และสัญญาเงินกู้ เพื่อพิจารณาลดดอกเบี้ยให้เป็นรายบุคคล แต่ปรากฏว่า น.ส.ก้อย ไม่มีรายชื่อลูกหนี้และหนังสือสัญญากู้ยืมเงินมาให้ดู เมื่อเค้นถามจึงยอมรับว่าเงินทั้งหมดไม่ได้นำไปลงทุน แต่นำไปหมุนใช้จ่ายในบัญชีของตัวเอง
นักธุรกิจสาว หนึ่งในผู้เสียหาย ที่ลงทุนไปกว่า 8 แสนบาท บอกว่า หลังจากความแตก คนที่ให้เงินไปลงทุนจึงพากันขอเงินคืน แต่ก็ไม่ได้รับ บางคนลงทุนไปเกือบสองล้าน เมื่อตรวจสอบบัญชีธนาคารของ น.ส.ก้อย ที่ก่อนหน้านี้มีเงินหมุนเวียนราว 11 ล้านบาท ล่าสุดเดือน ต.ค. 61 มียอดคงเหลือเพียง 25 สตางค์ ขณะที่อาจารย์สาวคนนี้ อ้างว่าถูกลูกหนี้โกง พร้อมกับยื่นหนังสือลาออกจากมหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 8 พ.ย. 61 ทีผ่านมา แต่ล่าสุดยังไม่ได้รับการอนุมัติจากมหาวิทยาลัย ขณะที่ตัวของอาจารย์สาวไม่มีใครพบตัวหลังจากเกิดเรื่อง แต่ได้บอกกับกลุ่มผู้เสียหายว่าจะไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียเพื่อหาเงินมาชดใช้ให้ได้มากที่สุด
ขณะที่อาจารย์ในมหาวิทยาลัยอีกคนหนึ่งที่ถูกหลอกลงทุนไปราว 8 แสนบาท และยังเหลือเงินที่ยังไม่ได้คืน 415,00 บาท บอกว่า รู้สึกเสียใจที่ถูกคนใกล้ชิดมาหลอกลวงกันเอง ที่ผ่านมาร่วมลงทุนก็เพราะไว้ใจ แต่ตอนนี้ที่รวมตัวแจ้งความก็เพราะว่าต้องการให้ น.ส.ก้อย มารับผิดชอบ เพราะหลายคนเป็นเงินเก็บทั้งชีวิตที่ตอนนี้ต้องหมดตัว แม้กระทั่งเงินจ้างทนายก็ยังไม่มี จึงขอให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะนี้ผู้เสียหายได้ทยอยเข้าแจ้งความแล้วหลายท้องที่ทั้ง สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ สภ.ช้างเผือก อ.เมืองเชียงใหม่ , สภ.สันกำแพง และ สภ.หางดง รวมผู้เสียหายทั้งหมด 8 ราย แต่คาดว่าจะมีผู้เสียหายอีกหลายรายที่ไม่เข้าแจ้งความเพราะเกรงผลกระทบต่ออาชีพการงาน
ร่วมแสดงความคิดเห็น