ชุมชนบ้านแม่ขี้มูก จับมือธนาคารออมสิน ฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการน้ำ

วันที่ 21 พฤศจิกายน 2561 นางวิไลพร พราหมณะนันทน์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตเชียงใหม่ 3 เป็นตัวแทน ส่งมอบอุปกรณ์เพื่อใช้ในศูนย์อบรมเกษตรพอเพียง ฝายชะลอน้ำและแปลงสาธิตเกษตร ในกิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการน้ำ ภายใต้แนวคิด “ออมสิน ออมน้ำ ออมเศรษฐกิจ ออมสังคม” ณโรงเรียนบ้านสองธาร ม.1 ต.บ้านทับ อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ โดยมีนางสาวเสาวลักษณ์ แสงเขื่อน ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาแม่แจ่ม พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานและชาวบ้านร่วมกิจกรรม

นางวิไลพร พราหมณะนันทน์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เขตเชียงใหม่ 3 กล่าวว่า การส่งมอบแปลงสาธิตเกษตร ฝายชะลอน้ำ และอุปกรณ์ประกอบศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการนํ้า ที่ธนาคารออมสินกับชาวบ้านแม่ขี้มูก ร่วมมือกัน โดยใช้แนวคิด “ออมน้ำ ออมเศรษฐกิจ ออมสังคม” กล่าวคือเมื่อทรัพยากรน้ำถูกใช้อย่างคุ้มค่า ย่อมสร้างผลลัพธ์ทางเศรษฐกิจ และเมื่อเศรษฐกิจครัวเรือนดี ความอบอุ่นในครอบครัวและความมั่นคงของสังคมโดยรวมย่อมตามมา ด้วยแนวคิดดังกล่าว ธนาคารออมสิน จึงมุ่งมั่นสนับสนุนกิจกรรม ที่ส่งเสริมทั้งเศรษฐกิจและสังคมมาโดยตลอด

ครั้งนี้อีกก็เช่นกัน เป็นที่ทราบกันดีว่าการแก้ไขปัญหาปากท้องนั้นเป็นเรื่องที่ไม่อาจแก้ไขได้จากมิติใดมิติหนึ่ง แต่ต้องมองให้รอบด้านเพื่อหาทางออกร่วมกันอย่างบูรณาการ ด้วยเหตุนี้ กิจกรรมในพื้นที่บ้านแม่ขี้มูก นอกจากการทำฝายชะลอน้ำและทำแปลงสาธิต ที่เป็นการกิจกรรมในเชิงปฏิบัติการแล้ว ก็ยังมีแนวคิดจากท่านนายอำเภอที่จะก่อตั้งศูนย์การเรียนรู้ขึ้นมาอีก 1 แห่ง เพราะความรู้ที่ถูกต้องเป็นต้นทางของการกระทำที่ถูกต้อง ซึ่งธนาคารออมสินก็เชื่อว่าศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้จะค่อย ๆ เป็นที่สะสมความรู้เรื่องการพึ่งพิงตัวเองทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติ และสามารถเป็นที่พึ่งทางปัญญาให้กับชุมชนได้ต่อเนื่องไปอีกยาวนาน

ทุกกิจกรรมที่กล่าวมาไม่ว่าจะเป็นการสร้างฝาย การทำแปลงสาธิต และการร่วมกันสร้างศูนย์การเรียนรู้ คงจะสำเร็จได้ยากหากไม่มีความกระตือรือร้นของคนในชุมชนและความเอาใจใส่อย่างจริงจังของหน่วยงานภาครัฐ ในนามตัวแทนของธนาคารออมสิน จึงต้องขอกล่าวแสดงความนับถือและขอขอบคุณจากใจจริง ทั้งพี่น้องหมู่บ้านแม่ขี้มูก ภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และภาคประชาสังคม ที่ร่วมแรงใจกันโดยยึดประโยชน์ส่วนรวมเป็นที่ตั้ง หวังเป็นอย่างยิ่งว่าความตั้งใจของพวกเราทุกคนในพื้นที่นี้จะเป็นตัวอย่างของความพยายามที่จะพึ่งพาตัวเองให้กับชุมชนอื่น ๆ ได้ศึกษาเป็นแบบอย่างต่อไป

นางสาวเสาวลักษณ์ แสงเขื่อน ผู้จัดการธนาคารออมสิน สาขาแม่แจ่ม กล่าวว่า เป็นที่ทราบกันดีว่าทรัพยากรน้ำมีความสำคัญกับวิถีชีวิตของผู้คนอย่างไม่สามารถปฏิเสธได้ ดังพระราชดำรัสในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เมื่อวันที่ 17 มีนาคม 2539 ตอนหนึ่งที่ว่า “หลักสำคัญว่าต้องมีน้ำ น้ำบริโภค และน้ำใช้ น้ำเพื่อการเพาะปลูก เพระชีวิตอยู่ที่นั่น ถ้ามีน้ำ คนอยู่ได้ ถ้าไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้ ไม่มีไฟฟ้า คนอยู่ได้ แต่ถ้าไม่มีไฟฟ้า ไม่มีน้ำ คนอยู่ไม่ได้”

ธนาคารออมสินในฐานะที่มีบทบาทเป็นธนาคารเพื่อประชาชน และมีพันธกิจสำคัญในเรื่องของการ “ออมน้ำ ออมเศรษฐกิจ ออมสังคม” จึงเล็งเห็นความสำคัญที่จะสนับสนุนให้ประชาชนมีระบบการบริหารจัดการน้ำที่เหมาะสมตามลักษณะเฉพาะของแต่ละพื้นที่ ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มุ่งสร้างความเข้มแข็งให้ประชาชนในลักษณะการพึ่งตัวเอง ด้วยเชื่อมั่นว่าหากแก้ไขปัญหาการจัดการทรัพยากร ย่อมส่งผลดีต่อเศรษฐกิจครัวเรือน เกิดเป็นความผาสุขโดยรวมของสังคม ซึ่ง 3 วันที่ผ่านมา เป็นกิจกรรมในภาคปฏิบัติการ นั่นคือการลงแรงร่วมใจก่อสร้างฝายชะลอน้ำ การทำแปลงสาธิตเกษตรและการร่วมกันบูรณะอาคารเก่าให้เป็นศูนย์การเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติและ

กิจกรรมภายในงานวันที่ 21พฤศจิกายน 2561 มีเวทีเสวนา “อยู่อย่างไรเมื่อไม่มีน้ำ” โดยวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ ว่าที่ ร.ต.ชัยกฤต พรมมา อดีตนักวิชาการเกษตรชำนาญการ กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ คุณสมศักดิ์ วงศ์ปัญญาถาวร อดีตผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและพยากรณ์เศรษฐกิจ ภาคเหนือและค้าชายแดน คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นเวทีแลกเปลี่ยนประสบการณ์การจัดการน้ำและหาทางออกเรื่องการจัดการน้ำร่วมกันในอนาคต

จากนั้นมีพิธีส่งมอบอุปกรณ์เพื่อใช้ในศูนย์อบรมเกษตรพอเพียงโดยตัวแทนธนาคารออมสินส่งมอบให้ชุมชน พิธีส่งมอบฝายชะลอน้ำและแปลงสาธิตเกษตร ร่วมงานออกร้านโดยร้านค้าภูมิปัญญาท้องถิ่น และปิดท้ายด้วย กิจกรรม “สายน้ำ สานสัมพันธ์” โดยมีนางวิไลพร พราหมณะนันทน์ ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตเชียงใหม่ 3 ประธานส่งมอบ พร้อมคณะผู้บริหารและพนักงานธนาคารออมสิน และร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับผู้เข้าร่วมกิจกรรม และคนในชุมชน

ด้านตัวแทนชุมชนบ้านแม่ขี้มูก นายบุญมา แหลมคม ผู้ใหญ่บ้านแม่ขี้มูก กล่าวว่า ความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้กล่าวให้การต้อนรับทุกท่านในวันนี้ และขอแสดงความชื่นชมพวกเราทุกคนที่สามัคคีกัน จัดกิจกรรมฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม : การจัดการน้ำ จนเป็นผลสำเร็จ และยังเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการให้การต้อนรับแขกที่มาเยือนจากต่างถิ่นด้วยอัธยาศัยอันดี

ผมต้องขอขอบคุณธนาคารออมสิน ที่ให้การสนับสนุนโครงการดี ๆ แก่ชุมชน ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม และขอขอบคุณวิทยากรทุกท่านที่ให้เกียรติมาแลกเปลี่ยนความรู้ หวังว่าพวกเราทุกคนจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่ ผมเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าโครงการดี ๆ เช่นนี้ ย่อมจะก่อให้เกิดแต่ประโยชน์ โภชผล เป็นผลดีต่อลูกหลานและชุมชนของเราสืบต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น