สืบสวนเมืองน่านจับยาบ้า แถมอาวุธปืนพร้อมกระสุนปืน

เมื่อเวลา 15.45 น.วันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 พ.ต.ท.อุทัย วงค์คำแสน รอง ผกก.สส.ฯ, ร.ต.ท.ชวลิต ประพันธ์ รอง สว.สส.ฯ พร้อมด้วยจนท.ตร.ชุดกก.สส.ภ.จ.น่าน ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายปิติพงษ์ จันทอน อายุ 33 ปี บ้านเลขที่ 240 ม.1 ต.ป่าคา อ.ท่าวังผา จ.น่าน ได้ที่ บริเวณริมถนนบายพาส ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่านพร้อมด้วยของกลางคือ 1.ยาบ้า ชนิด สีแดง บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกใส ถุงที่ 1 จำนวน 32 เม็ด ถุงที่ 2 จำนวน 38 เม็ด รวมยาบ้า จำนวน 70 เม็ด / 2.อาวุธปืนสั้น ไทยประดิษฐ์ ลูกโม่ ไม่มีหมายเลขทะเบียนปืน ขนาด .22 มม จำนวน 1 กระบอก / 3.กระสุนปืน ขนาด .38 มม Special 258 gr. จำนวน 50 นัด / 4.กระสุนปืน ขนาด .38 มม ลูกซ้อม 148 gr. จำนวน 50 นัด/ 5.กระสุนปืน ขนาด .22 มม.จำนวน 6 นัด / 6.กระสุนปืน ขนาด .32 มมจำนวน 3 นัดทั้งหมดอยู่ในกระเป๋าสะพายข้าง สีดำ LADIZULO จำนวน 1 ใบ ที่สะพายอยู่ / 7.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ Honda รุ่น Click สีเทา-ดำ ทะเบียน กยษ 584 น่าน จำนวน 1 คัน ไว้เป็นของกลาง

หลังจากที่จนท.ชุดจับกุม ได้ออกตรวจพื้นที่ บริเวณถนนบายพาส ต.ผาสิงห์ อ.เมืองน่าน จ.น่าน ในช่วงระดมกวาดล้างอาชญากรรมในช่วงเทศกาลลอยกระทง เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุพบชายไทย จอดรถจักรยานยนต์อยู่บริเวณริมถนน ท่าทางมีพิรุธ จนท.ชุดจับกุม จึงได้หยุดรถ พร้อมเข้าสอบถาม ทราบชื่อคือ นายปิติพงษ์ จันทอน ขณะสอบถาม ชายคนดังกล่าว มีอาการสั่น พร้อมยอมรับกับจนท.ชุดจับกุมว่า ตนได้เสพยาบ้ามา จริง เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. จำนวน 10 เม็ด และยอมรับกับจนท.ชุดจับกุมอีกว่า ตนยังมียาบ้าหลงเหลืออยู่อีกจำนวนหนึ่ง จนท.ชุดจับกุม จึงให้นายปิติพงษ์ฯ หยิบยาบ้าออกมาจากใต้เบาะนั่งผู้ขับขี่ของรถจักรยานยนต์ที่ตนนั่งอยู่ จำนวน 2 ถุง รวมยาบ้าทั้งหมด จำนวน 70 เม็ด และยังพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนของกลางดังกล่าว

จากการสอบถามนายปิติพงษ์ฯ ในเบื้องต้น ให้การว่า ของกลางทั้งหมด ที่จนท.ชุดจับกุม ตรวจพบ เป็นของตนเอง จริง ซึ่งตนรับยาบ้ามาจาก วัยรุ่น(ไม่ทราบชื่อ-ชื่อสกุลจริง) ราษฎรบ้านสองแคว ม.5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน จึงได้ควบคุมตัวนายปิติพงษ์ฯพร้อมของกลางทั้งหมดนำส่ง ร.ต.อ.ธณัชพงค์ ปัญญานะ พงส.สภ.เมืองน่าน โดยแจ้งข้อกล่าวหาว่า 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในความครอบครองเพื่อจำหน่าย โดยผิดกฎหมาย 2.มีอาวุธปืน ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 3.มีเครื่องกระสุนปืน ไว้ในความครอบครอง โดยไม่ได้รับอนุญาต 4. พาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร โดยนายปิติพงษ์ฯ ให้การรับสารภาพ ตลอดข้อกล่าวหา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น