หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำกำลังพลของหน่วย ชาวนา ทำการลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เรื่องการขาดแคลนแรงงาน
เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน 2561 ที่แปลงนา โรงเรียนบ้านนาคำ ต.ศิลาเพชร อ.ปัว จ.น่าน พ.อ.รฐนนท(ระถะ-นน) รัตนโสภณ ผบ.หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ได้นำกำลังพลของหน่วย ร่วมกับ คณะครู นักเรียนโรงเรียนศรัทธาศิลาเพชรรังสรรค์ และชาวนา ทำการลงแขกเกี่ยวข้าว เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน เรื่องการขาดแคลนแรงงาน
ทาง พ.อ.รฐนนท รัตนโสภณ ผู้บังคับหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 31 กล่าวว่า ได้นำกำลังพลของหน่วย รวม 50 นาย ลงแขกเกี่ยวข้าวให้ชาวนา เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน เป็นการลดค่าใช้จ่ายแรงงาน และต้นทุนการทำนา ตามนโยบายของ ผบ.หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา ที่ได้ให้กับหน่วยขึ้นตรงไว้ว่า “ทุกข์ของประชาชน คือ ทุกข์ของเรา” โดยจัดกำลังพลในหน่วย เข้าช่วยชาวนาเก็บเกี่ยว ผลผลิตตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นการช่วยลดต้นทุนการผลิต และช่วยแบ่งเบาภาระของชาวนา ในการบรรเทาความเดือดร้อนของชาวนา และแบ่งเบาภาระลดต้นทุนค่าใช้จ่ายให้ชาวนา ที่กำลังประสบปัญหา ด้านแรงงาน
อีกทั้ง ยังเป็นการสืบสานประเพณีการเกี่ยวข้าว ที่มีมาแต่โบราณ ในการลงแขกเอามื้อเกี่ยวข้าว ตามวิถีภูมิปัญญาท้องถิ่น ตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อเป็นการสร้างความสามัค คีในชุมชนหมู่บ้าน ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ถึงวิธีการทำนาที่เป็นอาชีพหลักและสำคัญของคนไทย ที่ได้สืบทอดกันมา ตั้งแต่ครั้งโบราณ และที่สำคัญยังเป็นตัวอย่างในการทำนา โดยไม่ใช้สารเคมีให้กับเกษตรกรในพื้นที่ ได้ศึกษาเรียนรู้เพื่อให้เห็นถึงประโยชน์และคุณค่าของการทำนา ที่ปลอดสารพิษ ตามวิถีภูมิปัญญาพื้นบ้านแต่ดั้งเดิม
ข้าวจึงไม่ใช่เพียงพืชที่ใช้บริโภคเป็นอาหารหลักอย่างเดียว หากแต่คือสมบัติของชาติ คือ จิตวิญญาณ วัฒนธรรม ศักดิ์ศรี และเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของชนชาวไทยอย่างแท้จริง จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราจะต้องศึกษาเรื่องของข้าว และสิ่งที่เกี่ยวข้องกับข้าว ที่เรียกว่า “วัฒนธรรมข้าว” ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงปรับตัวของสังคมไทย ในยุคข้อมูลข่าวสารตามกระบวนการโลกาภิวัตน์ ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน จะทำลายเรื่องราวเหล่านี้ให้สูญหายไป ทั้งนี้เพื่อประโยชน์ในการพัฒนาประเทศชาติ รวมถึงการอนุรักษ์และพัฒนาวัฒนธรรม ของคนไทยสืบไป
ร่วมแสดงความคิดเห็น