กรมธนารักษ์ ลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุ โครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ในพื้นที่ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์

กรมธนารักษ์ ร่วมลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อการก่อสร้างและบริหารโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ในพื้นที่ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ กับผู้ได้รับสิทธิพัฒนาที่ดินราชพัสดุเพื่อดําเนินการ จัดสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชนผู้มีรายได้น้อย สามารถมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ ตามนโยบายของรัฐบาล โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมดําเนินโครงการที่พักอาศัยสําหรับผู้ที่มีรายได้น้อย เพื่อแก้ไขปัญหาที่อยู่อาศัยและสร้างความมั่นคงให้แก่ผู้มีรายได้น้อยมีที่อยู่อาศัย มีงาน มีรายได้เพียงพอ ต่อการดํารงชีวิต สามารถพึ่งพาตนเองได้ ซึ่งเมื่อวันที่ 3 มกราคม 2561 คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบกรอบ การดําเนินโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ตามที่กระทรวงการคลัง โดยกรมธนารักษ์เสนอ ซึ่งมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนทั่วไปได้มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ โดยขอให้กระทรวงการคลัง ดําเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามระเบียบ กฎหมายและมติคณะรัฐมนตรี พร้อมทั้งดําเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง

วันนี้ (28 พฤศจิกายน 2561) นายอํานวย ปรีมนวงศ์ อธิบดีกรมธนารักษ์ ประธานพิธีลงนาม สัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อการก่อสร้างและบริหารโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ในพื้นที่ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กรมธนารักษ์ และผู้ได้รับสิทธิพัฒนาที่ดินราชพัสดุ ได้ร่วมลงนามสัญญา เช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อการก่อสร้างและบริหารโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ในพื้นที่ชลบุรี และประจวบคีรีขันธ์ โดยกรมธนารักษ์ในฐานะหน่วยงานของรัฐที่มีอํานาจหน้าที่ในการปกครอง ดูแล และบริหารจัดการที่ราชพัสดุ จึงได้จัดทําโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย 3 กลุ่ม ได้แก่ 1.) ประชาชนที่ได้รับสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 2.) ประชาชนที่มีรายได้ไม่เกิน 35,000 บาทต่อคนต่อเดือน และ 3.) ประชาชนทั่วไป ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นกรรมสิทธิ์ของตนเองบนที่ดินราชพัสดุ สําหรับรูปแบบการก่อสร้าง ที่อยู่อาศัยเป็นบ้านแฝด/บ้านแถว/อาคารชุดพักอาศัย มีพื้นที่ใช้สอยไม่น้อยกว่า 28 ตารางเมตร ในระดับราคา 350,000-700,000 บาทต่อหน่วย รวมทั้งกําหนดให้มีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลางไม่เกินร้อยละ 30 ของพื้นที่ โครงการฯ เพื่อรองรับกิจกรรมต่างๆ ที่เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของท้องถิ่น และ/หรือเป็นประโยชน์ ต่อโครงการฯ พร้อมทั้งคัดเลือกที่ดินราชพัสดุที่มีศักยภาพเหมาะสมมาดําเนินโครงการนําร่องจํานวน 8 จังหวัด ประกอบด้วย ชลบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เชียงราย ขอนแก่น เชียงใหม่ อุดรธานี ลําปาง และนครพนม

อธิบดีกรมธนารักษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 กรมธนารักษ์ได้ดําเนินการ เปิดประมูลสรรหาผู้ลงทุนที่จะได้รับสิทธิพัฒนาก่อสร้างและบริหารโครงการ “บ้านคนไทยประชารัฐ” และมีผู้ที่ผ่าน กระบวนการพิจารณาสรรหาคัดเลือกได้รับสิทธิพัฒนาที่ดินราชพัสดุ เรียบร้อยแล้ว จํานวน 5 จังหวัด ซึ่งขณะนี้พร้อมลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อก่อสร้างและบริหารโครงการฯ จํานวน 2 จังหวัด ได้แก่

  1. ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ชบ.633 ตําบลพลูตาหลวง อําเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เนื้อที่ 10-0-00 ไร่ ผู้ได้รับสิทธิ คือ บริษัท ฟอร์ คอน จํากัด มูลค่าโครงการประมาณ 175.30 ล้านบาท รูปแบบโครงการ : พื้นที่อยู่อาศัย อาคารพักอาศัยรวม 2 ชั้น 12 หลัง จํานวน 252 ยูนิต (ร้อยละ 72)
    พื้นที่เชิงพาณิชย์ อาคาร Community Mall 2 ชั้น เป็นศูนย์อาหาร มินิมาร์ท สรรพสินค้า ส่วนพาณิชย์ และลานกิจกรรม (ร้อยละ 28)
  2. ที่ดินราชพัสดุแปลงหมายเลขทะเบียนที่ ปข.573 ตําบลทับใต้ อําเภอหัวหิน จังหวัด ประจวบคีรีขันธ์ เนื้อที่ 6-3-01 ไร่ ผู้ได้รับสิทธิ คือ บริษัท ประจวบแกรนด์ โฮเต็ล จํากัด มูลค่าโครงการ ประมาณ 126.47 ล้านบาท รูปแบบโครงการ : พื้นที่อยู่อาศัย อาคารพักอาศัยรวม 4 ชั้น 2 หลัง จํานวน 90 ยูนิต และอาคารพักอาศัย รวม 5 ชั้น 2 หลัง จํานวน 120 ยูนิต รวมทั้งหมด 210 ยูนิต (ร้อยละ 76.28)
    พื้นที่เชิงพาณิชย์ ตลาดชุมชนชั้นเดียว 106 แผง (ร้อยละ 23.76) สําหรับอีก 6 จังหวัด มีความคืบหน้าการดําเนินโครงการ ดังนี้
    1) เชียงใหม่ เชียงราย และขอนแก่น พร้อมลงนามสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุเพื่อก่อสร้าง และบริหารโครงการฯ ภายในเดือนธันวาคม 2561
    2) อุดรธานี ลําปาง และนครพนม อยู่ระหว่างดําเนินการเปิดประมูลหาผู้ลงทุน
    ทั้งนี้ กรมธนารักษ์ได้เตรียมจัดหาที่ดินราชพัสดุในพื้นที่อื่นเพิ่มเติมเพื่อให้ความช่วยเหลือ ด้านที่อยู่อาศัยให้กับประชาชนตามโครงการนี้ โดยการเปิดประมูลหาผู้ลงทุนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น