คืบหน้าคดี นศ.ปวส.ปี 1 มอดังเชียงใหม่ ถูกรับน้องโหด พี่สาวและครอบครัว เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีรุ่นพี่

คืบหน้าคดี นศ.ปวส.ปี 1 มหาวิทยาลัยชื่อดังเชียงใหม่ ถูกรับน้องโหด พี่สาวและครอบครัว
เตรียมเข้าแจ้งความดำเนินคดีรุ่นพี่ ยันเอาเรื่องถึงสุด หลังผู้กระทำไม่มีการแสดงความสำนึกหรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น

จากกรณีที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์เรื่องราวว่าน้องชายโดนรุ่นพี่ในสถาบันชื่อดังแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ที่น้องชายเรียนอยู่แหกกฎ พาไปรับน้องนอกสถานที่กลางทุ่งนาช่วงกลางคืนนานหลายชั่วโมง แล้วกลับมาในสภาพแผลเต็มตัว และโรคประจำตัวกำเริบ ซึ่งหลังเกิดเรื่องได้ร้องเรียนกับทางสถาบัน และแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าเท่าที่ควร โดยล่าสุดทางฝ่ายผู้เสียหาย เตรียมที่จะเดินทาง เข้าแจ้งความดำ เนินคดี ที่ สภ.แม่ริม ในวันพรุ่งนี้(7 ธ.ค.61) เวลา 09.30 น.

นายจูน (นามสมมุติ) อายุ 19 ปี นักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 มทร.ล้านนา ซึ่งเป็นรุ่นน้อง ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กลับไปเรียนตามปกติ อย่างไรก็ตามพบว่าเพื่อนร่วมรุ่นมีการแสดงปฏิกิริยา ให้เห็นอย่างชัดเจน โดยในช่วงเข้าชั้นเรียนตัวเอง ต้องนั่งเรียน เพียงลำพังคนเดียว ขณะที่เพื่อนๆคนอื่นไปรวมกลุ่มกันหมด ซึ่งตามความตั้งใจของตัวเอง ตัดสินใจแน่นอนแล้วว่า น่าจะย้ายไปเรียนที่อื่น แต่จะยังมาเล่าเรียนตามปกติไปก่อน เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการโอนย้าย หน่วยกิตไปเรียนที่อื่น

ทั้งนี้ตั้งแต่เกิดเรื่อง ทางรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ ยังไม่เคยติดต่อมาพูดคุยแสดงความเสียใจ หรือขอโทษใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งจากการปรึกษากับทางครอบครัวแล้ว ได้ตัดสินใจร่วมกันว่าจะเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ จนถึงที่สุด เพื่อรักษาสิทธิและเรียก ร้องความถูกต้อง เพราะจากการพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ กับเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เรียนในสถาบันอื่นๆ พบว่า ไม่มีที่ใดที่มีการรับน้อง เกินเลยขอบเขตและรุนแรงเหมือนที่ตัวเองถูกกระทำ

ขณะที่ น.ส.แจน (นามสมมุติ) อายุ 31 ปี พี่สาว ของนักศึกษา ปวส.ชั้นปีที่ 1 ผู้เสียหาย ยืนยันว่าทางครอบครัวได้ปรึกษาหารือกันแล้ว และตัดสินใจที่จะเข้าแจ้งความดำเนินคดี กับรุ่นพี่ที่ก่อเหตุ เพราะที่ผ่านมานับตั้งแต่ที่เกิดเรื่อง ยังไม่เคยมีการแสดงความรู้สึกสำนึก หรือเสียใจและเข้ามาขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งบางคน อาจจะมองว่าน้องชาย ไม่ได้รับบาดเจ็บ ร้ายแรง อย่างไรก็ตามที่จริงแล้ว น้องชายมีโรคประจำตัวอยู่ เป็นโรคความดันสูง ซึ่งหากเหตุการณ์วันนั้น น้องชายเป็นอะไรไป อยากทราบว่ารุ่นพี่ที่ก่อเหตุ จะสามารถรับผิดชอบได้หรือไม่ ซึ่งการที่ตัวเองและครอบครัวดำเนินการเช่นนี้ ก็เพื่อรักษาสิทธิ และเรียกร้องความถูกต้องเป็นธรรม ไม่ให้มีเหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีกกับคนอื่นๆ

ร่วมแสดงความคิดเห็น