ที่มาของความเดือด! แดงเดือดทำไมต้องลิเวอร์พูล-แมนยูฯ

ที่มาของความเดือด! แดงเดือดทำไมต้องแมนยูฯ – ลิเวอร์พูล
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ากีฬาฟุตบอล คือกีฬาที่มีความนิยมมากที่สุด และเป็นกีฬาที่ทำรายได้ได้อย่างมหาศาล โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลในประเทศอังกฤษที่มีฟุตบอลระดับลีกที่เรียกได้ว่าเป็นลีกกีฬาฟุตบอลอันดับ 1 ของโลก สังเกตจากฐานแฟนบอลทั่วโลกรวมถึงทั่ประเทศไทยเองเช่นกัน และมีสองสโมสรฟุตบอลจากประเทศอังกฤษที่เรียกได้ว่ามีฐานแฟนบอลเยอะที่สุดในโลกอย่าง แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และ ลิเวอร์พูล ซึ่งหลายคนคงได้รู้ถึงความเดือดดาลระหว่างทีมที่มีประวัติศาสตร์มาอย่างยาวนานระหว่างสองทีมที่ยิ่งใหญ่และเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากเกาะอังกฤษนี้ เชียงใหม่นิวส์จึงขอยกความเป็นมาของแมตซ์แห่งศักดิ์ศรีนี้มาให้ได้อ่านกัน


ย้อนไปเมื่อศตวรรษที่ 18-19 ในช่วงปฎิวัติอุตสาหกรรมของประเทศอังกฤษ เมืองแมนเชสเตอร์เป็นเมืองที่มีอุตสาหกรรมรุ่งเรืองในการผลิตฝ้ายดิบ ส่วนทาง ลิเวอร์พูล จัดว่าเป็นเมืองท่าสำคัญอันดับต้นๆ ของโลก ซึ่งสะดวกต่อการติดต่อซื้อขายสินค้ากับต่างประเทศ กล่าวกันว่าในช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 นั้น การค้าขายทางเรือกว่า 40% ของทั้งโลกต้องมาเทียบท่าที่เมอร์ซี่ย์ไซด์ แมนเชสเตอร์ กำลังเฟื่องฟูสุดขีดในด้านอุตสาหกรรมทอฝ้าย อย่างไรก็ตาม วัตถุดิบสำคัญอย่าง ฝ้ายดิบ นั้นต้องขนส่งผ่านทางเรือเท่านั้น แถมต้องเสียค่าธรรมเนียมมหาศาลให้กับท่าเรือ ลิเวอร์พูล อีกด้วย นั่นจึงทำให้สภาเมืองแมนเชสเตอร์ แก้เผ็ดโดยทำการการขุดคลองเดินเรือแมนเชสเตอร์เสียเอง ซึ่งสร้างเสร็จในปี ค.ศ. 1894 เป็นคลองเรือสินค้าที่ยาวที่สุดในโลก นั่นจึงทำให้เรือขนฝ้ายดิบสามารถล่องไปยังท่าเรือที่เมืองแมนเชสเตอร์ได้โดยตรง และไม่ต้องจอดเทียบท่าเพื่อเสียภาษีปากเรือที่ เมอร์ซี่ย์ไซด์ อีกต่อไป ทำให้ ลิเวอร์พูล ขาดรายได้มหาศาลทันที ชาวเมืองลิเวอร์พูลตกงานกันเป็นแถบๆ สร้างความคับแค้นใจแก่ชาวลิเวอร์พูลอย่างมาก และนี่คือจุดเริ่มต้นของรอยบาดหมางระหว่างทั้งสองสโมสรนี้


ต่อมาสองสโมสรก่อตั้งทีมฟุตบอลขึ้นมา สำหรับทั้งสองทีมนั้นยังคงเป็นทีมยักษ์ใหญ่ในเกาะอังกฤษ และทาง ลิเวอร์พูล นั้นได้แชมป์ลีกในปี 1963-1964 จากการทำทีมของ บิลล์ แชงค์ลี่ย์ ส่วน แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นั้นได้แชมป์ลีกในปีต่อมา โดยทั้งสองทีมนั้นสลับกันได้แชมป์และไล่บี้บดขยี้กันอย่างมัน สลับกันปีต่อปี กล่าวได้ว่า ทั้งสองสโมสรถือว่าเป็นสโมสรยอดเยี่ยมของฟุตบอลอังกฤษ โดยชนะใน 121 ถ้วย (รวมกันทั้งสองทีม) ลิเวอร์พูลโดดเด่นในฟุตบอลอังกฤษตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 ถึง 1990 โดยเป็นผู้ชนะในลีก 11 ครั้งและได้ถ้วยยุโรป 4 ครั้ง ส่วนแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดโดดเด่นในช่วงปี ค.ศ. 1993 ถึง 2013 โดยเป็นผู้ชนะในลีก 13 ครั้ง และได้ถ้วยยุโรป 2 ครั้ง ทั้งสองทีมนั้นผลัดกันประสบความสำเร็จเรื่อยมานั่นจึงทำให้มีแฟนบอลติดตามอย่างมหาศาลไม่เสื่อมคลายซึ่งปัจจุบันทั้งสองทีมนั้นยังมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดและมีเรื่องให้แฟนบอลถกเถียงกันได้เสมออย่างเช่นคืนที่ 16 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมานั่นก็ทำให้มีคนพูดถึงอย่างมาก แม้จะไม่ได้ร่วมรับชมสดๆก็รู้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะทุกครั้งของการปะทะกันของสองทีมนี้มันคือปรากฏการณ์นั่นเอง!

ข้อมูลและภาพจาก : www.sport.trueid.net และ www.wikipedia.org


เรียบเรียงโดย นายธราดล วุฒิกรณ์ และ นายเรืองศักดิ์ จันทร์น้อย นักศึกษาฝึกประสบการณ์จากมหาวิทยาลัยนเรศวร

ร่วมแสดงความคิดเห็น