ตะลึง!! เจ้าหน้าที่ตรวจค้นอุโมงค์ลับใต้ดิน บุกทลายเครือข่าย “มังกรจาง” ยึดทรัพย์เฉียด 200 ล้านบาท

เมื่อวันที่ 20 ธ.ค.61 พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาร รอง.ผบ.ตร.พร้อมด้วยพ.อ.อาสาฬหะ พูลสุวรรณ ผบ.ฉก.ร. 14 พ.อ.ภาส วงศ์สารภี รอง.ผบ.ฉก.ร.14 พร้อมชุดปฏิบัติการสยบไพรีของตำรวจปราบปรามยาเสพติด ตำรวจภูธรจังหวัดตาก และทหารกองทัพภาคที่ 3 ร่วมกันเปิดปฏิบัติการ“ขุดทรัพย์มังกรจาง เครือข่ายไอซ์ข้ามชาติ”เข้าตรวจค้นเครือข่ายยาเสพติด 11 จุดในอ.แม่สอด จ.ตาก และอีกหลายจุดในกทม. ลพบุรี เชียงใหม่ และเชียงราย จำนวน 25 จุด

จากการตรวจค้นบริษัทเซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเปิดเป็นโรงงานจิวเวอรี่บนเนื้อที่กว่า 20 ไร่ ซึ่งเป็นของนายอาสือ หรือ “เสี่ยจาง” หรืออีกฉายาคือ “มังกรจาง” นักค้ายาเสพติดรายใหญ่ของภาคเหนือ พบว่าสถานที่แห่งนี้ถูกแบ่งเป็นส่วนโกดักเก็บสินค้า และรีสอร์ท พบคนงานดูแล 2 คน อ้างทำหน้าที่เป็นเพียงผู้นอนเฝ้าเท่านั้น

ผลตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวพบว่า มีการสร้างเป็นลักษณะของบ้าน ออฟฟิศ และโกดัง ซึ่งบริเวณบ้านพบอุโมงค์ลงไปใต้ดิน เพื่อไปโผล่จุดที่ห่างจากตัวบ้านประมาณ 100 เมตร ซึ่งเจ้าหน้าที่คาดว่าอุโมงค์ดังกล่าว จะใช้ลำเลียงยาเสพติดและสิ่งผิดกฎหมาย รวมทั้งหลบหนีการจับกุมของเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่จึงทำการยึดและอายัดทรัพย์สินทั้งหมดไว้ตรวจสอบ

นอกจากนี้กำลังอีกชุดยังเข้าตรวจค้นบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเป็นบ้านของนายประพัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบกันฟอกเงิน โดยพบผู้ต้องหารายดังกล่าวอยู่ในบ้าน กับภรรยา, แม่ยายซึ่งมีหมายจับในคดีเดียวกัน

โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ตำรวจมีข้อมูลว่า มีส่วนถือครองและรับทรัพย์สินของนายอาสือ ผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบกันฟอกเงิน ที่ยังคงหลบหนีอยู่ในขณะนี้ โดยนายประพัฒน์ ทำหน้าที่เป็นล่าม และคนสนิทของเสี่ยจาง มีหุ้นส่วนในบริษัทจิวเวอรี่ 21 หุ้น จากการตรวจค้นในบ้านพบสมุดบัญชีธนาคารหลายเล่ม และสลากออมสิน ที่เป็นชื่อของเสี่ยจาง

นายประพัฒน์ ให้การอ้างว่ามีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่ และเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้าง เบิกจ่ายเงินจากบัญชีของบริษัทที่เสี่ยจางมอบอำนาจเอาไว้ให้ และไม่สามารถติดต่อนายจางได้เกือบ 2 ปีแล้ว โดยปฎิเสธไม่เกี่ยวข้องและไม่รับรู้ว่าเสี่ยจาง ค้ายาเสพติด

ที่ว่าการอำเภอแม่สอด จ.ตาก พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป) พร้อมด้วย พล.ต.ท.สุธีร์ เนรกัณฐี ผบช.ภ.6, พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส. และเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงสรุปผลปฏิบัติการว่า จับกุมบุคคลตามหมายจับเพิ่มเติมได้ 3 ราย ตรวจยึดทรัพย์สินตาม พ.ร.บ.ฟอกเงินฯ รถยนต์ จำนวน 5 คัน รถจักรยานยนต์ จำนวน 4 คัน บ้าน 2 หลัง โรงงาน 1 โรงงาน ที่ดิน 3 แปลง บัญชีเงินฝาก จำนวน 1 บัญชี ถือหุ้นบริษัท 2 บริษัท จำนวน 40,010 หุ้น ราคาประเมินรวมทั้งสิ้นประมาณ 178,480,800 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้มีการออกหมายจับนายสือ หรือ อาสือ ทรงกิตติกุล อายุ 48 ปี ชาวเมียนมาถือพาสปอร์ต 2 สัญชาติมีที่อยู่ในไทย บ้านเลขที่ 205 ม.9 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก, นายประพัฒน์ อายุ 27 ปี และแม่ยาย ผู้ร่วมขบวนการค้ายาไอซ์ข้ามชาติรายสำคัญ ที่มีเครือข่ายเชื่อมโยงนายณัฐพล นาคคำ ซึ่งถูกตำรวจปราบปรามยาเสพติดจับกุมเมื่อกุมภาพันธ์ปี 60 ครั้งนั้นขยายผลพบเบนซ์ เรซซิ่ง ร่วมฟอกเงินถือทรัพย์แทนด้วย

มีรายงานว่า นายอาสือ ตัวการใหญ่เจ้าของฉายามังกรจาง ไหวตัวหลบหนีไประยะหนึ่งแล้ว เจ้าหน้าที่จึงเข้าอายัดทรัพย์สินเป็นบริษัท เซาท์เทิร์น ครอส กรุ๊ป จำกัด เลขที่ 200 ม.2 ต.แม่กาษา อ.แม่สอด จ.ตาก บนเนื้อที่ 22 ไร่ สร้างขึ้นเตรียมทำธุรกิจค้าพลอยและอัญมณีบังหน้าฉาก

ส่วนบริษัทเซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทเจียระไนอัญมณีของนายสือ ร่วมทุนกับชาวฮ่องกง แต่บริษัทนี้ตั้งขึ้นมาเพื่อบังหน้าเท่านั้นเพราะอาชีพที่นายสือ ทำจริงๆ คือเป็นหัวหน้าเครือข่ายค้ายาเสพติดข้ามชาติ ที่มีคนจากหลายชาติเป็นสมาชิกเครือข่าย ประกอบด้วย ชาวไต้หวัน ฮ่องกง จีน มาเลเซีย ออสเตรเลีย ไทย และเมียนมา

เครือข่ายนายสือจัดหาสารตั้งต้นจากแอฟริกาใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และอินเดียส่งเข้าโรงงานผลิตยาเสพติดของชนกลุ่มน้อยว้า เขตปกครองพิเศษ 2 เมืองปางซาง ในเมียนมา เพื่อผลิตไอซ์ เคตามีน หรือยาเค และยาบ้า จากนั้นขายยาเสพติดเหล่านี้ให้เครือข่ายในไทยและออสเตรเลีย สำหรับนายสือเป็นคน 2 สัญชาติ เขาถือบัตรประชาชนเมียนมาใช้ชื่อว่า มิน อ่อง

ส่วนเงินที่ได้จากการค้ายาเสพติดถูกนำมาฟอกในบริษัทเซาท์เทิร์นครอส กรุ๊ป ของนายสือ แต่นายสือถูกทางการเมียนมา ออกหมายจับในคดียาเสพติดตั้งแต่ปี 59 เขาจึงให้ลูกน้องซึ่งเป็นล่ามในบริษัท คือนายประพัตร แซ่ต๋วง มาถือหุ้นแทนเพื่อป้องกันการถูกยึดทรัพย์ ซึ่งวันนี้ตำรวจได้เข้าปิดล้อมจับกุมนายประพัตรที่บ้านด้วยดังกล่าว

มีรายงานว่า นอกจากการตรวจค้นจับกุมยึดทรัพย์ของบริษัทเซาท์เทิร์น ครอส กรุ๊ป แล้ว ยังมมีบริษัทอีก 2 แห่งในกรุงเทพฯ ที่มีชื่อบริษัทนี้ของนายสือเข้าไปถือหุ้นด้วย ซึ่งคาดว่าเป็นการฟอกเงินจากการค้ายาเสพติดเช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น