ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กำชับให้ด่านชุมชนเฝ้าระวังผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หากเมาแล้วขับ ให้ยึดรถทันที

ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ กำชับให้ด่านชุมชนเฝ้าระวังผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุ หากเมาแล้วขับ ให้ยึดรถทันที และย้ำให้เจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยในสถานที่ที่จัดงาน
เคาท์ดาวน์อย่างเข้มงวด โดยขอให้ประชาชนฉลองเทศกาลปีใหม่ด้วยความไม่ประมาท

วันนี้ (31 ธ.ค. 61) เวลา 10.00 น. ที่ สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าประชุม เพื่อสรุปผลการปฏิบัติงานฯ ซึ่งสถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ของจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านมา 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม – 30 ธันวาคม 2561 จำนวนอุบัติเหตุเกิดขึ้น 22 ครั้ง น้อยกว่าเฉลี่ย 3 ปีย้อนหลัง จำนวน 7 ครั้ง สาเหตุที่พบมากที่สุด คือ การเมาสุรา ส่วนประเภทยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุมากที่สุด คือ รถจักรยานยนต์ ลักษณะสถานที่เกิดเหตุสูงสดเป็นทางตรง และเกิดในถนนสายรองตามอบต./หมู่บ้าน ซึ่งมักจะเป็นคนในพื้นที่ที่เกิดอุบัติเหตุ

ด้าน นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า ขณะนี้ได้ผ่านไปครึ่งทางของ 7 วันอันตรายช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 แล้ว โดยวันนี้ได้มาติดตามการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเพิ่มความเข้มค้นในมาตรการต่างๆ ซึ่งวันนี้จะมีการเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กัน และก็มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ในหลายสถานที่ด้วย โดยได้ให้แต่ละอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนันผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำชุมชน ให้เข้มงวดการจัดตั้งจุดตรวจบูรณาการ และด่านชุมชน ในการเฝ้าระวัง สอดส่องผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุอย่างต่อเนื่อง เน้นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกนิรภัย การขับรถเร็ว และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ รวมทั้งการใช้มาตรการชุมชน ขอให้เฝ้าระวัง และสังเกตพฤติกรรมคนในชุมชน หากมีอาการมึนเมาต้องตักเตือน เพื่อลดปัจจัยเสี่ยงการเกิดอุบัติเหตุและเสียชีวิต ซึ่งส่วนใหญ่การเกิดอุบัติเหตุมักจะเป็นถนนสายรองเป็นหลัก และขอให้ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ร่วมกันดำเนินการตามมาตรการ “เมาแล้วขับ ให้ยึดรถ” หากพบผู้กระทำหรือผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ ให้ดำเนินการทุกรายทันที ไม่มีการยกเว้น พร้อมกับย้ำให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น จริงจัง และต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ขอให้ทางอำเภอร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดูแลรักษาความปลอดภัยในสถานที่ที่มีการจัดงานเคาท์ดาวน์ และงานเฉลิมฉลอง ให้กวดขันการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ให้จำหน่ายให้กับเยาวชนอายุต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์ รวมทั้งผู้ที่มีอาการมึนเมาด้วย โดยก่อนเข้างานจะต้องมีการผ่านคัดกรองอาวุธ วัตถุระเบิด ยาเสพติด และหลังงานเลิกก็ต้องตรวจวัดระดับแอลกอฮอล์อีกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่ากฎหมายกำหนดขับขี่ยานพาหนะ จนนำไปสู่การเกิดการสูญเสีย

นอกจากนี้ ได้กำชับให้ขนส่งจังหวัดเชียงใหม่ จัดเจ้าหน้าที่ประจำสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ทำการตรวจวัดแอลกอฮอล์ในลมหายใจ และตรวจปัสสาวะของพนักงานขับรถโดยสารทุกคนก่อนนำรถออกจากสถานีขนส่ง ตามนโยบาย “ผู้ขับรถโดยสารสาธารณะแอลกอฮอล์ต้องเป็นศูนย์” รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งจุดเสี่ยงต่างๆ ให้มีสัญญาณวับวาบ ไฟฟ้าส่องสว่าง ป้ายเตือนจุดเสี่ยงให้ชัดเจน ทั้งทางโค้ง ทางแยก เส้นทางที่กำลังปรับปรุง และจุดข้ามทางรถไฟ เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้ขับขี่มีความตื่นตัว ลดความเร็ว ระมัดระวังเป็นพิเศษ และป้องกันการหลับในเวลาขับรถ รวมไปถึงมีการกำกับดูแลเส้นทางขึ้นดอยสำคัญ เช่น ดอยสุเทพ ดอยอินทนน์ ดอยอ่างข่าง และดอยคำ เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้ที่เดินทาง และสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่อีกด้วย

โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ขอให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ และนักท่องเที่ยวมาเยือนจังหวัดเชียงใหม่ เฉลิมฉลองเทศกาลปีเก่าต้อนรับปีใหม่ในวันนี้ด้วยความไม่ประมาท โดยขอให้ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด เพื่อมิให้เกิดความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งอยากจะเห็นงานเคาท์ดาวน์ของจังหวัดเชียงใหม่ เป็นแบบอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรม เพื่อให้เป็นเทศกาลของครอบครัวได้เฉลิมฉลองในกันอย่างมีความสุข

ร่วมแสดงความคิดเห็น