ป.ป.ส.ย้ำดำเนินการกับ จนท.รัฐ ที่กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติด

วันพุธที่ 2 มกราคม 2562 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (สำนักงาน ป.ป.ส.) เปิดเผยถึงข้อห่วงใยในสังคม กรณีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด ทำให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายของรัฐ ไม่บรรลุวัตถุประสงค์ สำนักงาน ป.ป.ส. มีแนวทางการดำเนินการกับเจ้าหน้าที่รัฐที่กระทำความผิด หรือเกี่ยวข้องกับยาเสพติดอยู่แล้ว ซึ่งหากพบการกระทำเข้าข่ายดังกล่าว จะต้องรับโทษ 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้ โดยการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐ แยกออกเป็น 3 ลักษณะ หรือพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่รัฐและบทลงโทษ ดังนี้

  1. กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดเสียเอง ในข้อหาผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย รวมถึงสมคบ สนับสนุน ช่วยเหลือ หรือพยายามกระทำความผิดข้อหาดังกล่าว หรือยักย้าย ซ่อนเร้น ทำลาย หรือรับทรัพย์สิน ที่มีคำสั่งยึดหรืออายัด หรือที่รู้ว่าจะถูกยึดหรืออายัด ต้องรับโทษ 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
  2. ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่ช่วยเหลือผู้กระทำความผิด โดยเรียกรับเงินหรือทรัพย์สิน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อช่วยเหลือผู้กระทำความผิดในข้อหาผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย ต้องรับโทษ 3 เท่าของโทษที่กำหนดไว้สำหรับความผิดนั้น
  3. เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เจ้าหน้าที่รัฐผู้ใด กระทำการสนับสนุนหรือช่วยเหลือ, จัดหาหรือให้เงินหรือทรัพย์สิน ยานพาหนะ สถานที่ หรือให้ความสะดวก, รับเงิน ทรัพย์สิน, คบค้าสมาคมเป็นอาจิณ กับผู้ที่เกี่ยวข้องกับ ยาเสพติด หรือประกันตัวผู้ต้องหาหรือจำเลยในความผิดฐานผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่ายหรือมีไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายในชั้นพนัก งานสอบสวน อัยการ หรือศาล ให้ถือว่า “เจ้าหน้าที่รัฐนั้นเกี่ยวข้องกับยาเสพติด” ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการทางวินัยโดยทันที

นายนิยม เติมศรีสุข
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด

นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) กล่าวว่า “เจ้าหน้าที่ของรัฐคนใดปล่อยปละละเลย หรือเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติด จะต้องถูกดำเนินการทางวินัย และทางอาญาโดยทันที และกรณีมีการกล่าวหา ร้องเรียน หรือสงสัยว่าเจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ให้ผู้บังคับบัญชาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่โดยทันที จากนั้น เมื่อผู้บังคับบัญชาได้รับแจ้งผลการสอบสวนทางวินัยแล้ว ต้องพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปโดยเร็ว

หากผู้บังคับบัญชาผู้ใดละเลยไม่ดำเนินการ ให้ถือว่าผู้บังคับบัญชาผู้นั้นกระทำผิดวินัย และเมื่อมีการจับกุมเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่งกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดในข้อหา ผลิต นำเข้า ส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติด หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ให้ผู้จับแจ้งกองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด ภายใน 48 ชั่วโมง นับแต่เวลาจับกุม และที่สำคัญหากพบเจ้าหน้าที่รัฐ หรือผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด สามารถแจ้งเบาะแส ผ่านสายด่วน ป.ป.ส. โทร.1386 ตลอด 24 ชั่วโมง”

ร่วมแสดงความคิดเห็น