ม.พัน 12 พล ม1 ทำพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ “อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน” เนื่องใน วันทหารม้า

มาเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2562 พ.อ.เกียรติอุดม นาดี ผบ.ม.พัน.12 พล.ม.1 ค่ายพระยาไชยบูรณ์ อ.เด่นชัย จ.แพร่ มอบหมายให้ พ.ต.บุญญฤทธิ์ แจ้งแสงทอง นายทหารฝ่ายยุทธการและการฝึก ม.พัน.12 พล.ม.1 เป็นผู้แทนในพิธีวางพานพุ่มถวายสักการะ “อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน” เนื่องใน วันทหารม้า 4 มกราคมของทุกปี ณ อนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ม.พัน.12 พล.ม.1

จากบันทึกของศูนย์การทหารม้าได้บันทึกไว้ว่า “เมื่อวันอาทิตย์ขึ้น 15 ค่ำเดือนยี่ ปีจอ จ.ศ.1128 ตรงกับวันที่ 4 มกราคม พ.ศ.2309 สมเด็จพระจ้าตากสินมหาราช พร้อมด้วยกำลังทหารจำนวนน้อย ได้ตีฝ่าวงล้อมกองทัพพม่าที่ล้อมกรุงศรีอยุธยาออกไป เมื่อทหารพม่ารวบรวมกำลังไล่ติดตามมาถึง ณ บ้านพรานนก อ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา พระองค์พร้อมด้วยทหารเอกคู่พระทัยอีก 4นาย รวมเป็นทหาร ๕ นาย ม้า 5 ม้า (ตัว) ได้ทำการรบบนหลังม้ากับข้าศึก (พม่า) ที่มีทหารบนหลังม้า 30 ม้า (30 คน, 30 ม้า) กับทหารราบเดินเท้าอีก 200 นาย ซึ่งในยุทธการครั้งนี้เสียเปรียบ 1 ต่อ 5 แต่ด้วยฝีมือการรบอันเป็นเลิศดาบยาวที่ใช้บนหลังม้า (ดาบยาวคือดาบที่ใช้บนหลังม้า จะยาวกว่าดาบปกติประมาณ 1 ศอกคน) สามารถรบเอาชนะทหารพม่าที่มีมากกว่าได้อย่างเด็ดขาด อีกทั้งพระองค์ได้วางกลยุทธ์ให้ทหารเดินเท้าตั้งค่ายปีกกาซ่อนไว้จากนั้นพระองค์กับขุนทหารทั้ง 5 ชักมาออกศึกอย่างรวดเร็วรุนแรง เมื่อเห็นข้าศึกประมาทก็ชักม้าถอยหนีเข้าสู่แดนสังหาร เมื่อพม่าเข้ามาอย่างไมทันระวังกองรบปีกกาซ้ายขวาก็บุกโจมตี

ทัพพม่าที่มากกว่าก็พ่ายแพ้ยับเยิน การวางกลยุทธ์ที่หลักแหลมและความเหี้ยมหาญการศึกก็สามารถทำให้กองรบของพระเจ้าตากชนะได้อย่างเด็ดขาดสวยงาม ย่อมแสดงให้เห็นถึงการใช้คุณลักษณะของทหารม้าในการรบนั่นคือ ความคล่องแคล่วในการเคลื่อนที่ และ ความรวดเร็วในการเข้าทำลายล้างอย่างสมบูรณ์ ทหารม้าจึงยกย่องพระองค์เป็นบูรพาจารย์ แห่งการรบบนหลังม้า และเป็นพระบิดาของเหล่าทหารม้าของเรา และได้ถือเอาวันที่พระองค์ท่านได้สร้างวีรกรรมในครั้งนั้น คือวันที่ 4 มกราคมของทุกปี เป็น “วันทหารม้า”

ร่วมแสดงความคิดเห็น