ผจก.กรุงไทยปายยืนยัน!! เงินลูกค้าไม่หาย ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง

ผู้จัดการกรุงไทย สาขาปาย ยืนยันเงินลูกค้ายังอยู่ แต่ขอเวลาตรวจสอบข้อเท็จจริง ไม่ต้องห่วงธนาคารรับผิดชอบอยู่แล้ว ขณะที่มีผู้เสียหายรายใหม่ ร้องสื่อและเตรียมเข้าแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในวันพรุ่งนี้

จากกรณี ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อนาย กุนฑล ลิมป์ชยานันต์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กตนเองว่าเงินในบัญชีของมารดา(แม่)ซึ่งฝากไว้กับธนาคารแห่งหนึ่งในพื้นที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน เกิดปัญหา เงินหายจากบัญชีโดยไม่รู้ตัว และบอกว่าแม่เป็นคนบ้านนอก ไม่ค่อยรู้หนังสือ เลยไม่มีทั้ง ATM และแอพฯเกี่ยวกับธนาคารทั้งสิ้น ทุกครั้งที่เบิกก็จะไปเบิกที่ธนาคารด้วยตัวเองทุกครั้ง แต่ปัญหาก็เกิดจนได้

ขณะนี้แม่ผมมาเที่ยวหาหลานๆ ที่ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ประมาณ 5-6 เดือนแล้ว บัญชีและบัตรประชาชนของแม่ อยู่กับแม่ตลอด แต่เงินถูกถอนจาก ธนาคารที่ปายเมื่อวันที่ 29/11/2561 เป็นจำนวนเงิน 290,000 บาท ทั้งๆที่ตัวแม่นั้นอยู่ฉะเชิงเทรา แต่เงินถูกถอนที่ อ.ปาย ซึ่งห่างกันเป็นพันกิโลเมตร โทรไปถามที่ธนาคารปายแล้ว ไม่มีสำเนาใบถอนเงิน แต่เงินถูกถอนไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ รอทางธนาคารติดต่อกลับอยู่ครับ เค้ารับปากจะตามเรื่องให้เร็วที่สุด

พร้อมกล่าวทิ้งท้ายว่า แม่ผมอายุเยอะแล้วกว่าแกจะเก็บได้ขนาดนี้กะว่าจะเก็บเงินไว้ใช้บั้นปลายของชีวิต เงินฝากไว้ที่ธนาคาร ถึงจะไม่มี ATM ไม่มีแอพ ไม่มีเครดิต ไม่มีเดบิต อย่าวางใจว่าเงินของคุณจะไม่หายนะครับ ใครมีเงินในบัญชีเงินฝากเยอะๆตรวจสอบกันด้วยนะครับและเจ้าของบัญชีก็ได้เข้าแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐาน ณ สภ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา

จากกรณีดังกล่าว เมื่อเวลา 11.00 น.ของวันนี้ 7 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยได้เข้าพบกับผู้จัดการธนาคารและเจ้าหน้าที่ของธนาคารซึ่งได้ให้การต้อนรับด้วยดี และขณะที่ผู้สื่อข่าวเดินผ่านหน้าตู้ATMธนาคารและเคาน์เตอร์ธนาคารด้านใน ก็พบมีประชาชนนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นลูกค้าของธนาคารเดินทางเข้ามาทำธุรกรรมฝาก-ถอนตามปกติและมีจำนวนมาก

คุณสุกัญญา สุขสวัสดิ์ ผู้จัดการธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า หลังจากได้เห็นเฟชบุ๊กที่โพสต์ว่าเงิน จำนวน 290,000 บาท ของลูกค้าหายจากบัญชีธนาคาร สาขาปาย เมื่อทราบเรื่องในฐานะเป็นผู้ดูแลสาขาก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้แจ้งให้สำนักงานใหญ่รับทราบเกี่ยวกับโพสต์ดังกล่าวแล้ว ซึ่งตนขอยืนยันว่าเงินลูกค้ายังอยู่ไม่หายไปไหน แต่ที่ไม่ปรากฏในบัญชีขอเวลาให้ธนาคารตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน เมื่อลูกค้าบอกว่าเงินหายจากบัญชี ทางธนาคารก็ต้องตรวจสอบให้แน่ชัดให้ครบถ้วนสมบูรณ์ ไม่ต้องห่วงธนาคารพร้อมรับผิดชอบอยู่แล้ว

นายสมบัติ สีฉว่า พ่อค้าล็อตเตอรี่หน้าธนาคารกรุงไทย สาขาปาย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า ตนขายล๊อตเตอรี่อยู่หน้าธนาคารมานานกว่า 10 ปี แล้ว ได้เงินมาก็นำมาฝากมาถอน ทำประกันผมก็ทำกับธนาคารนี้ทั้งหมดไม่เคยมีปัญหา ลูกค้าที่มาใช้บริการเขาก็ให้ความไว้วางใจดีมาก ผมเองก็เชื่อมั่นธนาคาร เจ้าหน้าที่ก็บริการดี ทางที่ดีผู้ฝากผู้ถอนควรจะใช้บริการแอฟ SMS ดีที่สุด เงินเข้าเงินออกเวลาไหนเรารู้หมด สามารถไปพบเจ้าหน้าที่ธนาคารได้ทันทีสอบถามกันตรงนั้นว่าใครถอนเงินออกไป เราก็จะรู้เร็ว ผมมั่นใจกับธนาคาร 100 % ส่วนคนที่ไปโพสต์ว่าเงินหายออกจากบัญชีมากถึง 290,000 บาท ผมว่าเข้าน่าจะรีบมาพบกับเจ้าหน้าที่ธนาคารนะ เพราะเงินจำนวนมากจะอยู่นิ่งเฉยไปลงเฟซ เมื่อไหร่จะรู้ข้อเท็จจริงว่าเงินเราหายไปไหน แต่ผมมั่นใจธนาคารคงจะตรวจสอบรู้ข้อเท็จจริงเร็ว ๆ นี้

ขณะที่เรื่องดังกล่าว ได้มีผู้เสียหายเพิ่มอีกรายแล้ว โดยเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2562 วันเดียวกัน นายพงษ์ศักดิ์ จ่าเหว่ ( รหัสสาขา 525 เลขที่บัญชี 525-029162-7 Sa G 7688063 ปกปิด ) ราษฎรบ้านเมืองน้อย ต.เวียงเหนือ อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ตนก็ถูกถอนเงินออกจากบัญชีไปเช่นกัน ทั้งที่ไม่ได้ไปถอนและฝากเงินเข้าบัญชีตลอด ต่อมา 20 ธันวาคม 2561 ได้เคยไปขอถอนเงิน ปรากฏว่าพนักงานของธนาคารชื่อดังในเมืองปาย อ้างว่าระบบขัดข้องและนำเงินสดมาให้แทน จำนวน 50,000 บาท ต่อมาลูกสาวของตนได้นำสมุดบัญชีไปตรวจสอบ ยอดเงินที่เคยฝากครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 มียอดเงินสดเหลือในบัญชี

ซึ่งเป็นยอดที่ปรับหลังการฝากเงิน จะเหลือเงินในบัญชีที่ถูกต้อง จำนวน 485,041.23 บาท และกลับพบการปรับยอดโดยเจ้าหน้าที่ของธนาคารดังกล่าว มี 3 รายการ ที่ส่งพิรุธคือ ยอดเงินถอนจากบัญชี ซึ่งตรวจแล้วพบว่ามีการถอนเงินหน้าเคาเตอร์ โดยพนักงานธนาคาร รหัส 560887 โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561 ถอนเงินออกไปจำนวน 450,000 บาท โดยพนักงานรหัส 560887 และต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 มีการนำเงินมาฝาก 450,000 บาท โดยพนักงานรหัส 520520 ซึ่งเป็นคนคนเดียวกัน โดยเป็นการนำเงินเข้าด้วยการฝากด้วยถอนโอน ทั้งที่ เจ้าของบัญชีไม่เคยไปทำธุรกรรมดังกล่าวแต่อย่างใด

ล่าสุดที่สำคัญคือ ยอดเงินล่าสุด ที่ถูกปรับโดยพนักงานธนาคารก่อนหน้านี้คือเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2561 จะเหลือ 485,041.23 บาท และถอนไปเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2561 จำนวนเงิน 50,000 บาทโดยในวันดังกล่าว ทางธนาคารอ้างว่าระบบขัดข้องให้เอาเงินสดไปก่อนแล้วจะดำเนินการปรับสมุดให้ทีหลัง ซึ่งในวันนั้น ได้มีการเดินทางไปธนาคารดังกล่าว เข้า- ออก ไม่ต่ำกว่า 3 ครั้งโดยมีผจก.ธนาคารเป็นคนคอยโทรเรียกให้ไปรับเงินสดที่ธนาคาร ซึ่งเมื่อบุตรสาวของตนมาดูสมุดบัญชี พบว่า เงินในบัญชีได้หายไปจำนวน 21,000.77 บาท ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ตนและครอบครัวจะเดินทางไปแจ้งความที่สถานีตำรวจภูธรอำเภอปาย เพื่อให้มีการดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เกี่ยวข้องทุกคน

สำหรับเรื่องดังกล่าว พบว่า ก่อนหน้านี้ ได้มีการโพสในสื่อโซเชียลมีเดีย ว่ามีการลักลอบถอนเงินออกจากบัญชีของ ผู้ใช้บริการธนาคารดังกล่าว และมีผู้ถูกกระทำในรูปแบบเดียวกันเพิ่มอีกหลายราย จนทำให้มีลูกค้าในพื้นที่จำนวนมาก จะพากันไปถอนเงินเพราะหวั่นถูกกระทำในรูปแบบดังกล่าวอีกเป็นรายต่อไป

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวในอำเภอปาย ระบุว่า เจ้าหน้าที่ธนาคารคนหนึ่งที่มีส่วนพัวกันกับการเบิกถอนเงินในบัญชีของลูกค้า เคยทำงานอยู่ภาคใต้และมีญาติคนหนึ่งตกเป็นผู้ต้องหาอยู่ในแก๊งค์สกิมเมอร์ที่ภูเก็ต ต่อมาพนักงานคนดังกล่าวได้ย้ายมาทำงานที่อำเภอปาย จ.แม่ฮ่องสอน นอกจากกลุ่มบุคคลดังกล่าวอาจจะมีส่วนพัวพันกับแก็งค์สกิมเมอร์แล้ว ยังพบว่า มีเจ้าหน้าที่ในธนาคารดังกล่าว ปล่อยเงินกู้และค้ำประกันด้วยโฉนดที่ดินในพื้นที่อำเภอปาย อีกด้วย

ร่วมแสดงความคิดเห็น