ฝุ่นพิษ เมืองกรุงยังเกินมาตรฐาน ! คิวต่อไปภาคเหนือ เชียงใหม่ ปีที่แล้วติดอันดับ 1 ของโลก

เมื่อวันที่ 14 ม.ค. 62 กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM2.5 ในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ว่าจากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า อากาศลอยตัวได้ดีขึ้นเล็กน้อย สภาพอากาศปิด มีเมฆเป็นส่วนมาก มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาหลายพื้นที่ ลมสงบ ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่ กทม.และปริมณฑล คุณภาพอากาศโดยรวมยังคงอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง

Cr.ภาพประกอบ จากเฟซบุ๊ก Freedom Shots (Freedom)

สำหรับพื้นที่ริมถนน สถานีวัดคุณภาพอากาศแสดงผลค่าฝุ่นละออง PM2.5 อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ตรวจวัดค่าได้ระหว่าง 60-81 ไมโครกรัมต่อลูกบาศ์กเมตร (มคก./ลบ.ม.) ซึ่งค่ามาตรฐานอยู่ที่ 50 มคก./ลบ.ม. สาเหตุจากสภาพอากาศและการจราจร พื้นที่ทั่วไป

Cr.ภาพประกอบ จากเฟซบุ๊ก Freedom Shots (Freedom)

ทั้งนี้ สารมลพิษทางอากาศที่ตรวจพบเกินมาตรฐาน ได้แก่ ฝุ่นละออง PM2.5 ตรวจพบค่า เกินมาตรฐานที่บริเวณ ริมถ.กาญจนาภิเษก เขตบางขุนเทียน แขวงบางนา, เขตบางนา แขวงคลองจั่น, เขตบางกะปิ แขวงดินแดง, เขตดินแดง ริมถ.พระราม 4 เขตปทุมวัน, ริมถ.อินทรพิทักษ์ เขตธนบุรี, ริมถ.ลาดพร้าว เขตวังทองหลาง, ริมถ.ดินแดง เขตดินแดง แขวงพลับพลา, เขตวังทองหลาง

ส่วนทางภาคเหนือ และจังหวัดเชียงใหม่เอง ในทุกๆ ปี เดือนกุมภาพันธ์ จนถึงเดือนเมษายน ก็เกิดสถานการณ์ของหมอกควันปกคลุมทั่วเมือง ประชาชนได้ผลกระทบด้านสุขภาพรวมทั้งธุรกิจการบินถึงขั้นยกเลิกเที่ยวบิน ธุรกิจท่องเที่ยวด้วยเช่นกัน                 

ซึ่งสาเหตุเกิดมาจาก การเผาเพื่อเตรียมพื้นที่การเกษตร ไฟป่า และหมอกควันที่ข้ามชายแดนมา แนวทางป้องกันที่ออกมาในทุกปี คือ การประกาศกำหนดช่วงเวลาห้ามเผาในที่โลกทุกชนิดอย่างเด็ดขาดในจังหวัดเชียงใหม่ แต่ก็ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควรปัญหมอกควันก็ยังมีเช่นเดิมวนซ้ำ กลับมาทุกปี

เว็บที่รายงานคุณภาพอากาศทั่วโลก https://www.airvisual.com เผยข้อมูล 10 ประเทศทั่วโลก เมื่อปีที่แล้ว รายงานถึงประเทศที่มีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน โดยประเทศไทยมีค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน อยู่ใน อันดับที่ 1 ของโลก ที่จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา

เรื่องนี้เราได้รู้สาเหตุ ต้นเหตุของปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้น แต่เราจะร่วมกันช่วยเหลืออย่างไร และทางภาครัฐจะมีนโยบายอย่างไรมาช่วยสนับสนุนและป้องกันปัญหาเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในทุกๆ ปี ต่อไปก็ถึงคิวทางภาคเหนือ เตรียมพร้อมรับมือกันหรือยัง ?

Cr.ภาพประกอบ จากเฟซบุ๊ก Freedom Shots (Freedom)

ร่วมแสดงความคิดเห็น