“ปั่นไม่ทิ้งกัน ปี 2” เยี่ยมศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่เชียงใหม่

“ปั่นไม่ทิ้งกัน ปี 2” เยี่ยมศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่เชียงใหม่ ผู้พิการต่อยอดธุรกิจ “ฟาร์มจิ้งหรีด” สู่ “มินิฟาร์มตุ๊กแกยักษ์” ส่งออก

เมื่อวันที่ 23 ม.ค.2562 กองทุนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ นำคณะสื่อมวลชนร่วมโครงการ “ปั่นไม่ทิ้งกัน ปี 2” เยี่ยมชมศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่เชียงใหม่สายใต้ อ.ดอยหล่อ และพบกับ Landmark แห่งความหวังของผู้พิการไทย ณ ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นวันที่ 23-24 ม.ค.2562

แห่งแรกลงพื้นที่เยี่ยมชมศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่เชียงใหม่ อ.ดอยหล่อ จ.เชียงใหม่ มีท่านศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์
ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ และผู้ก่อตั้งศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน เดินทางมาด้วย และได้รับประทานอาหารจากผักสวนครัวพอเพียงของศูนย์ฯด้วย

ซึ่งศูนย์ฯดังกล่าวมีภารกิจเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการในระดับพื้นที่ มีนายสมบูรณ์ อิ่นนวล หัวหน้าศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่ ดูแล 8 อำเภอ อ.ดอยหล่อ อ.จอมทอง อ.สันป่าตอง อ.แม่วาง อ.ฮอต อ.อมก๋อย อ.ดอยเต่า อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีนายสมบูญ ปัญญาเหล็ก รองหัวหน้าศูนย์ฯ และนายคเณศพานิช ขัดทิศ นายกสมาคมอาชีพอิสระคนพิการและครอบครับ พร้อมนางสาวดาวใจ จันทะนิล ประธานศูนย์ อ.สันติสุข จ.น่าน ให้การต้อนรับคณะสื่อมวลชน

จากนั้นพาเยี่ยมชมฟาร์มจิ้งหรีด ที่ผู้พิการสามารถต่อยอดธุรกิจจาก ฟาร์มจิ้งหรีด สู่ มินิฟาร์มตุ๊กแกยักษ์ ส่งออกสู่ประเทศเพื่อนบ้าน และศูนย์ยังได้ปลูกพืชผักสวนครัว และผักไฮโดรโปนิกส์ เพาะเห็ดนางฟ้าภูฐาน และเห็ดอื่นๆ ซึ่งเหมาะกับผู้พิการที่มีอายุการเก็บผลผลิตได้ใน 45 วัน

นายสมบูรณ์ อิ่นนวล หัวหน้าศูนย์ฝึกอาชีพอิสระเพื่อคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่ และในฐานะประธานสภา ทต.สันติสุข เป็นผู้พิการมือขาดตั้งแต่กำเนิด กล่าวว่า ได้ไปอบรมการฝึกอาชีพที่มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการอาเซียน เมื่อ 2 ปีก่อน เมื่อลงมือทำได้ทางมูลนิธิฯขยายเครือข่ายใน จ.เชียงใหม่ให้มีศูนย์ในพื้นที่ อ.ดอยหล่อ อ.เชียงดาว อ.แม่แตง เมื่อประสบความสำเร็จมีรายได้เพิ่มจากการเลี้ยงจิ้งหรีด เพาะเห็ด และปลูกผัดไฮโดรโปนิกส์ แล้วได้เปิดอบรมให้สมาชิกเพิ่มในหลักสูตร 100 วัน เพียง 10 คน ให้เรีบนรู้และเข้าใจนำไปปฏิบัติได้เลยด้วยต่อไป ถึงจะอบรมยากลำบากกว่าคนปกติมากถึง 3 เท่าก็ตาม เพราะผู้พิการสมองและร่างกายไม่ปกตินั้นเอง แต่ทางศูนย์ฯก็สามารถดำเนินงานมาได้ประมาณ 2 ปีถือว่าประสบความสำเร็จ

ส่วนผลผลิตของศูนย์ฯ เช่นจิ้งหรีดนั้นนำมาแปรรูปอาหาร มีเมนูแนะนำ “ไส้อั่ว 3 สหาย” มีส่วนผสมมีจิ้งหรีด เห็ด เนื้อหมู และสมนุนไพร มีตระไคร้ มะกรุด ที่ปลูกเองในศูนย์ฯมาปรุงอาหารด้วย ยังมี เมนูอื่นๆ คือ แหนมเห็ด และน้ำพริกจิ้งหรีด และจิ้งหรีดทอดสมุนไพรเป็นต้น

“สำหรับจิ้งหรีด ข่าวดีล่าสุด อาจารย์จากมาหาวิทยาลัยแม่โจ้ กำลังวิจัยจิ้งหรีด นำไปบดทำเป็นแคปซูล เพิ่มโปรตีนในร่างกาย แทนเนื้อวัวเนื้อควาย เพราะจิ้งหรีดไม่มีสารก่อให้เกิดมะเร็ง ปลอดสารพิษอีกด้วย อย่างไรก็ตามกำลังวิจัยร่วมกับมูลนิธิสากลเพื่อคนอาเซียนอยู่ คาดว่าจะดำเนินการวิจัยเสร็จสิ้นในเร็วๆนี้” นายสมบูรณ์ อิ่นนวล หัวหน้าศูนย์ฝึกอาชีพอิสระเพื่อคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่ กล่าว

ส่วนตลาดนั้นนายสมบูญ ปัญญาเหล็ก รองประธานศูนย์ฝึกอาชีพอิสระเพื่อคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่ ซึ่งแม่เป็นผู้พิการ กล่าวว่า ผลผลิตออกมาขายให้มูลนิธิฯเป็นหลัก หรือหากขายให้ลูกค้ารายอื่นก็สามารถทำได้ อย่างไรก็ตามมูลนิธิฯจะรองรับซื้อหมดทุกศูนย์อยู่แล้ว ยอมรับว่าผู้พิการที่มาอบรมที่ศูนย์แล้วประกอบอาชีพสามารถสร้างรายได้เพิ่มมากขึ้น และเป็นที่ยอมรับของสังคมว่า ผู้พิการเองก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ และยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพได้แบบมั่นคงอีกด้วย.

ร่วมแสดงความคิดเห็น