“ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2” ระดมทุนบริจาคในการนำไปใช้ก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนให้แล้วเสร็จ

เมื่อวันที่ 24 ม.ค.2562 ทางกองทุนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ นำคณะสื่อมวลชนร่วมโครงการ “ปั่นไม่ทิ้งกัน ปี 2” เยี่ยมชมศูนย์บริการอาชีพอิสระคนพิการและครอบครัวระดับพื้นที่เชียงใหม่สายใต้ อ.ดอยหล่อ และพบกับ Landmark แห่งความหวังของผู้พิการไทย ณ ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ จัดขึ้นวันที่ 23-24 ม.ค.2562

ล่าสุดที่ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ วันที่ 24 ม.ค.ทางศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ประธานมูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากการจัดโครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind” เมื่อต้นปี 2561 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่คนตาบอดปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ถึงเชียงใหม่ รวมระยะทางกว่า 867 กิโลเมตร เพื่อระดมทุนก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน ที่อำเภอเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งต้องใช้งบประมาณในการก่อสร้างทั้งสิ้นจำนวน 150 ล้านบาท ซึ่งในครั้งนั้นทางมูลนิธิฯ ได้รับยอดเงินบริจาคจากการจัดกิจกรรมทั้งสิ้นกว่า 32 ล้านบาท ดังนั้นในปีนี้จึงได้จัดกิจกรรม “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2” ขึ้นเป็นปีที่ 2 อย่างต่อเนื่อง เพื่อระดมทุนบริจาคในการนำไปใช้ก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนให้แล้วเสร็จ

“หลังจากที่มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ได้ดำเนินการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนที่อำเภอเชียงดาวมาเป็นระยะเวลา 1 ปี พบว่ามีผู้พิการและผู้ดูแลคนพิการในภูมิภาคอื่นๆ อีกเป็นจำนวนมากที่ติดต่อเข้ามาเพื่อขอรับการฝึกอาชีพ ทางมูลนิธิฯ จึงมีแนวคิดในการจัดสร้าง ศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนเพิ่มเติมอีก 1 แห่งที่อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม เพื่อขยายโอกาสให้ผู้พิการในพื้นที่ภาคกลางได้รับโอกาสในการฝึกทักษะอาชีพอย่างทั่วถึง จึงเป็นที่มาของการจัดโครงการปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2 ก็เพื่อระดมทุนบริจาคเพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอเชียงดาวให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ และเริ่มก่อสร้างศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียนที่อำเภอนครชัยศรี ควบคู่กันไป ซึ่งหากก่อสร้างแล้วเสร็จสมบูรณ์ก็จะสามารถรองรับการฝึกอาชีพให้กับผู้พิการได้มากถึง 1,000 คนต่อปี ไม่รวมกับผู้ดูแลและครอบครัว”

สำหรับโครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปี 2” นั้น ในปีนี้จะมีคนตาบอดจำนวน 22 คนและอาสาสมัคร 22 คน ร่วมกันปั่นจักรยาน จากกรุงเทพฯ ถึงศูนย์ฝึกอาชีพคนพิการอาเซียน อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ผ่าน 15 จังหวัด คือ กรุงเทพฯ สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี นครราชสีมา ลพบุรี สระบุรี อยุธยา ปทุมธานี สุพรรณบุรี และนครปฐม ในระหว่างวันที่ 9 ถึง 22 กุมภาพันธ์ 2562 รวมทั้งสิ้น 14 วัน ระยะทางรวม 1,500 กิโลเมตร โดยในแต่ละจังหวัดจะมีการจัดกิจกรรมเพื่อรณรงค์ให้คนในสังคมเห็นศักยภาพของผู้พิการและให้โอกาสผู้พิการในการพัฒนาตนเองเพื่อเป็นพลังในการพัฒนาสังคมต่อไปในอนาคต

และในการนี้ มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เสด็จเป็นประธานในการเปิด โครงการ “ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปีที่ 2” และทรงนำร่วมปั่นจักรยานจาก สนามฟุตบอล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ถึงจังหวัดสมุทรปราการ ระยะทาง 50 กิโลเมตรด้วย

“มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ รู้สึกซาบซึ้งและสำนึกในพระกรุณาธิคุณของ พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นอย่างยิ่ง ที่ทรงเมตตาประทานธงประจำพระองค์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจแก่นักปั่นจักรยานผู้พิการทางสายตาและอาสาสมัคร และเสด็จเป็นประธานในการเปิดโครงการ ปั่นไปไม่ทิ้งกัน No One Left Behind ปีที่ 2 และทรงนำร่วมปั่นจักรยานจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดสมุทรปราการ ในวันเสาร์ที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 ซึ่งเป็นวันแรกของการจัดกิจกรรมด้วย ในการนี้มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการจึงขอเชิญชวนคนไทยทุกคนร่วมกันสร้างประวัติศาสตร์ร่วมกับผู้พิการในการที่จะร่วมกันขยายและสร้างโอกาสให้คนพิการ สานต่องานที่พ่อทำ ด้วยการช่วยเหลือให้ผู้พิการสามารถก้าวข้ามความยากจน มีอาชีพที่ยั่งยืน เพื่อที่จะเปลี่ยนผู้พิการที่ถูกสังคมมองว่าเป็นภาระ ให้กลายเป็นอีกหนึ่งพลังในการสร้างสรรค์และพัฒนาสังคมต่อไป” ศาสตราจารย์ วิริยะ นามศิริพงศ์พันธ์ กล่าวสรุป

ร่วมแสดงความคิดเห็น