วันที่ 30 ม.ค.62 รายงานข่าวจากจังหวัดเชียงใหม่ แจ้งว่า ในช่วงระยะนี้ นักท่องเที่ยวจำนวนมาก ยังคงนิยมขึ้นไปชมความงดงามของดอกนางพญาเสือโคร่ง ที่เบ่งบานอวดโฉมงามตามยอดดอย และสถานที่ขึ้นชื่อหลายแห่งในพื้นที่ ซึ่งในขณะนี้ต้นนางพญาเสือโคร่ง ได้ผลิดอกเป็นสีชมพูแล้ว โดยจะออกดอกผลิบานเพียงปีละครั้ง ครั้งละประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ทราบข่าว ต่างเดินทางไปสัมผัสกับความงามและเก็บรูปเป็นที่ระลึก ขณะที่ช่วงนี้สภาพอากาศที่เริ่มอุ่นขึ้น ได้ส่งผลทำให้ดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือซากุระเมืองไทย ที่เบ่งบานเต็มที่ ก็เริ่มร่วงโรยและมีใบเขียวผลิแซมออกมาบางแล้ว และคาดว่าในช่วงประมาณ 7 วันข้างหน้า หรือประมาณไม่เกิน 1 สัปดาห์ ดอกนางพญาเสือโคร่งที่เบ่งบาน ก็จะร่วงโรยกันแล้ว
อย่างไรก็ตาม ในช่วงนี้นักท่องเที่ยวยังคงเดินทางไปเที่ยวชมความสวยงามของดอกไม้ชนิดนี้ ได้ตามจุดและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ ที่ขึ้นชื่อ อาทิ สถานีเกษตรหลวงอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เส้นทางโครงการหลวงขุนวาง โครงการหลวงอินทนนท์ ดอยขุนแม่ยะ ห้วยน้ำดัง ดอยฟ้าห่มปก รวมไปถึงเส้นทางสู่บ้านขุนช่างเคี่ยน บนดอยสุเทพ-ปุย ที่ขณะนี้ดอกชนิดนี้กำลังเบ่งบานเป็นสีชมพูสวยงามเต็มต้น และกำลังจะเริ่มร่วงโรยแล้วเช่นกัน
สำหรับดอกนางพญาเสือโคร่ง หรือดอกซากุระเมืองไทย เป็นพืชดอกในสกุล Prunus พบทั่วไปบนดอยสูง เช่น ภูลมโล จ.เลย, ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย, ดอยเวียงแหง ขุนช่างเคี่ยน ขุนแม่ยะ จ.เชียงใหม่, ขุนสถาน ดอยวาว ดอยภูคา และมณีพฤกษ์ จ.น่าน โดยเป็นดอกไม้ประจำ อ.เวียงแหง นางพญาเสือโคร่ง เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ ขนาดเล็ก มีความสูงประมาณ 10-15 เมตร ใบเป็นชนิดใบเดี่ยว ลักษณะรูปรีแบบไข่ หรือไข่กลับ ออกสลับกัน ใบมีความกว้าง 3-5 ซม. ยาว 5 -12 ซม. ปลายใบเรียวแหลม โคนใบกลมหรือขอบแคบ ขอบจักปลายก้านใบ มีต่อม 2-4 ต่อม หูใบแตกแขนงคล้ายเขากวาง ใบร่วงง่าย ดอกสีขาว ชมพู หรือแดง ออกเป็นช่อกระจุกใกล้ปลายกิ่งก้าน ดอกยาว 0.7-2 ซม. ขอบริ้วประดับจักไม่เป็นระเบียบ กลีบเลี้ยงติดกันเป็นรูปกรวย กลีบดอกมี 5 กลีบ เมื่อบานขนาดโตเส้นผ่าศูนย์กลาง 1-2 ซม.ซึ่งคนไทยมักจะนิยมเรียกว่า “ซากุระเมืองไทย” เพราะมีลักษณะคล้ายซากุระ แม้จะเป็นคนละชนิดกันก็ตาม
ร่วมแสดงความคิดเห็น