เห็นด้วยอย่างไร? กับการงดเข้าแถว ตอนเช้าในโรงเรียน หลีกเลี่ยง!! เด็ก ๆ รับฝุ่นจากอากาศในระยะนี้

ในขณะที่มีข่าว ค่าฝุ่นละอองเกินค่ามาตราฐาน กันครึกโครม !! ที่โน้นก็เกิน ที่นี้ก็เกิน แต่ประชาชนเราก็ยังดำเนินชีวิตกันตามปกติ หลายๆ คน ได้รับผลกระทบต่อสุขภาพ จังหวัดเชียงใหม่และภาคเหนือทุก ๆ ปี จะต้องเผชิญกับปัญหานี้ ปีนี้ถือว่ามาเร็ว ๆ เราควรจะตระหนักและเตรียมรับมือ หรือหาวิธีป้องกันอย่างไรกันได้บ้าง โดยเฉพาะเด็ก ๆ ที่จะได้รับผลกระทบต่อสุขภาพมากที่สุด

จากเฟซบุ๊ก ที่ใช้ชื่อว่า Wintiwa Jitkul ได้โพสต์ภาพค่าปริมาณฝุ่นละอองเปรียบเทียบ นอกบ้าน ในบ้าน ในรถ เปรียบเทียบกันอย่างเห็นได้ชัดเจน พร้อมแคปชั่นว่า

“จะว่าวิตกจริตก็ได้ เรื่องมลพิษเป็นเรื่องส่วนรวม สมัยก่อนเราก็มีการเผาขยะต้นไม้เป็นเรื่องปกติ ปัญหามันก็มีมานานแต่!!!! บริบทสิ่งแวดล้อมมันต่างกัน สมัยก่อนป่าเยอะ รถน้อย ขยะพลาสติก็น้อย เผากันเข้าไปสิไม่ได้กระทบอะไรมากมาย แต่เดี๋ยวนี้เราอยู่กันเยอะขึ้น รถเยอะขึ้น อุตสาหกรรมมากขึ้น การทำเหมือนเดิมไม่ผิดแต่มันทำให้เกิดปัญหา อะไรช่วยกันได้ก็ช่วยกันอย่าโยนความรับผิดชอบให้ใคร ใครมีกำลังมีพื้นที่ก็ช่วยกันปลูกต้นไม้ในบ้านให้เยอะขึ้น ขยะพลาสติกก็พยายามลดใช้ให้น้อยลง ไม่ได้บอกให้เลิก แค่คนละนิดละหน่อยก็ช่วยได้เยอะ ทำเท่าที่ทำได้ อย่างน้อยก็มีจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อมบ้าง บอกตรงๆว่าก็พยายามอยู่ ทำไม่ได้ 100% หรอก แต่จะพยายามที่หงุดหงิดอีกเรื่องก็คือบ้านหลังที่สองของลูกคือโรงเรียน ทำไมไม่ตระหนักเรื่องพวกนี้เลย ยังให้เด็กเข้าแถวในตอนเช้า เอาเด็กมานั่งตากฝุ่น ขับผ่านตอนเช้ามีหลายโรงเรียน คือต้องเข้าใจว่าโรงเรียนเป็นที่หล่อหลอมความคิด ถ้าเรื่องแค่นี้ครูยังไม่ตระหนัก แล้วเด็กจะเอาจิตสำนึกเกี่ยวกับการดูแลตนเองและสิ่งแวดล้อมมาจากไหน เฮ้อ!บ่นไปยาว ๆ สรุป ลูกใครลูกมัน บ้านใครบ้านมัน ทำตัวเราไม่ให้เป็นภาระสังคมพอ จบค่ะ”

ทำให้เราต้องหันกลับมาใส่ใจตัวเราเองกันแล้ว ซึ่งคำแนะนำโดยทั่วไปก็คือ การหลีกเลี่ยงทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้ง อีกหนึ่งกิจกรรมที่เด็ก ๆ ต้องทำทุก ๆ วันในโรงเรียน ก็คือ การเข้าแถวหน้าเสาร์ธง ซึ่งแต่ละวันใช้เวลามากถึง 30 นาที กับการยืนทำกิจกรรมในที่โล่งแจ้งแบบนี้

เห็นด้วยอย่างไร ? กับการงดเข้าแถว ตอนเช้าในโรงเรียน ในช่วงที่อากาศเป็นมลพิษแบบนี้