สมยศ เดินหน้าหาโค้ช คนใหม่ คุมช้างศึก ไม่รอรับแค่มาสมัคร

ประมุขลูกหนังไทยบิ๊กอ๊อด สมยศ’ ชี้ลุยหาโค้ชใหม่ไม่ใช่แค่รอรับสมัคร “สมยศ” ชี้สาเหตุตั้ง “โต่ย-โชค” ลุยต่อศึก 4 เส้าที่จีน เพื่อความต่อเนื่อง แต่เมื่อถึงรายการใหญ่ จำเป็นต้องใช้โค้ชตามคุณสมบัติเอเอฟซี เผยใช้ทุกวิธีในการหากุนซือใหม่ ไม่ได้แค่รอรับสมัครอย่างเดียว 

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ

ตามที่สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ประกาศแต่งตั้งผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ที่จะเดินทางไปทำศึก 4 เส้ารายการพิเศษ ที่ประเทศจีน ช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนมีนาคม “โค้ชโต่ย” ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย เป็นหัวหน้าผู้ฝึกสอน และ “โค้ชโชค” โชคทวี พรหมรัตน์ เป็นผู้ช่วยผู้ฝึกสอน โดยกุนซือ 2 รายนี้ ฝากผลงานไว้จากการมารับหน้าที่ต่อจาก มิโลวาน ราเยวัช ซึ่งโดนปลดช่วงเอเชียนคัพ 2019 จนพลิกสถานการณ์พาทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายสำเร็จ

“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ระบุว่า ทั้ง โค้ชโต่ย และ โค้ชโชค ได้เข้ามาคุมทีมชาติไทย ระหว่างการแข่งขันเอเชียนคัพ 2019 และสำหรับศึก 4 เส้าที่จีน ซึ่งสมาคมฯ ยังอยู่ในระหว่างสรรหาโค้ชถาวร มาทำหน้าที่คุมทัพ ดังนั้นเพื่อความต่อเนื่อง จึงได้ตั้ง โค้ชโต่ย และ โค้ชโชค ทำหน้าที่ รายการนี้ เป็นรายการพิเศษ ไม่มีระเบียบเรื่องไลเซนส์โค้ชของสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย(เอเอฟซี) อย่างไรก็ตาม เมื่้อถึงรายการที่จำเป็นต้องใช้โค้ชตามระเบียบ ก็ต้องหาผู้ที่มี
คุณสมบัติมารับตำแหน่ง

เรื่องนี้ทั้งโค้ชโต่ย และ โค้ชโชค ก็เข้าใจดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระเบียบ เอเอฟซี ระบุว่า หัวหน้าโค้ชทีมชาติไทย ต้องจบหลักสูตร โปร-ไลเซนส์ และผู้ช่วยโค้ช ต้องจบ เอ-ไลเซนส์ ขณะที่ ศิริศักดิ์ ยอดญาติไทย จบเอ-ไลเซนส์ เพิ่งเริ่มอบรมโปร-ไลเซนส์ และ โค้ชโชค จบ ซี-ไลเซนส์ ซึ่งยังไม่เข้าตามคุณสมบัติ

ส่วนที่มีข้อสงสัยจากแฟนบอล ในเรื่องวิธีการสรรหาโค้ช ด้วยการเปิดรับสมัคร แต่ไม่ได้ใช้วิธีทาบทามเองนั้น ประมุขลูกหนังไทย กล่าวว่า สมาคมฯ ได้กระทำทุกรูปแบบ ทุกวิธีการในการคัดเลือกกุนซือคนใหม่ ไม่ใช่เพียงรอรับสมัครอย่างเดียว โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดที่จะได้รับต่อทีมฟุตบอลชาติไทย

ร่วมแสดงความคิดเห็น