สองแม่ลูก ขับกระบะชนกับรถขนขยะเทศบาล กลางถนนดังสนั่น รถพังยับ แม่บาดเจ็บสาหัสติดคารถ ลูกสาวยืนร้องไห้ลุ้น จนท.ช่วยผู้เป็นแม่

เวลาประมาณ 13.00 น.วันที่ 31 ม.ค. 62 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นครลำปาง รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถชนกัน มีผู้บาดเจ็บติดภายในรถ บริเวณหน้าตู้ยามสายตรวจพระบาท ถนนเลี่ยงเมือง ต.พระบาท อ.เมือง จ.ลำปาง จากนั้น ร.ต.อ.อภิรักษ์ มีธรรม รอง สว.(สอบสวน) สภ.เขลางค์นครลำปาง ก่อนประสานเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยนครลำปาง รีบให้การช่วยเหลือ โดยนำเครื่องตัดถ่างมาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน พร้อมกับเจ้าหน้าที่กู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง

โดยที่เกิดเหตุพบรถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า วีโก สีดำ 4 ประตู หมายเลขทะเบียน กจ 3140 ลำปาง สภาพรถฝั่งขวาพังยับเยิน ภายในรถพบคนขับรถเป็นหญิงอายุประมาณ 45 ปี ถูกอัดก๊อปปี้ติดอยู่ กับพวงมาลัยอาการสาหัส เจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยจึงได้เร่งนำเครื่องมือตัดถ่างเข้างัดร่างผู้บาดเจ็บออกมาจากรถ โดยใช้เวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นได้นำตัวขึ้นรถกู้ชีพโรงพยาบาลลำปาง นำส่งรักษาตัวทันที นอกจากนั้นยังพบเด็กสาวอายุประมาณ 13-15 ปี ยืนร้องไห้โห่ปริ่มใจจะขาด พร้อมกับตะโกนถามเจ้าหน้าที่อยู่ตลอดว่า แม่หนูยังหายใจอยู่ไหม โดยมีพลเมืองดีคอยช่วยกันปลอบใจ และพาไปปฐมพยาบาล เนื่องจากได้รับบาดเจ็บที่แขน

ส่วนรถคู่กรณี เป็นรถขนขยะ ยี่ห้ออีซูซุ สีเขียว หมายเลขทะเบียน 81-2330 ลำปาง เป็นของเทศบาลเมืองเขลางค์นคร จอดคร่อมอยู่กลางถนน ด้านหน้ารถมีร่องรอยยุบจากการเฉี่ยวชน โดยมีนาย ชัยวัฒน์ ศรีตาบุตร อายุ 51 ปี อยู่บ้านเลขที่ 42 หมู่ 14 ต.ชมพู อ.เมือง จ.ลำปาง เป็นคนขับ พร้อมด้วยเพื่อนคนงานอีก 2 คน ยืนรอให้การอยู่ในที่เกิดเหตุ

ภายหลังนายชัยวัฒน์ ให้การว่า ตนเองและเพื่อนได้เก็บขยะเรียบร้อยแล้ว จะนำรถเข้าไปจอดที่สำนักงาน ต.พระบาท ขณะขับมาตามทางตรง อยู่ๆรถกระบะคันดังกล่าวได้เลี้ยวกลับรถตัดหน้าอย่างกระชั้นชิด ในระยะไม่เกิน 20 เมตร เมื่อเห็นก็ได้เหยียบเบรกจนมิด พยายามเบรกอย่างเต็มที่แต่ก็ไม่ทัน ทำให้ชนกลางลำรถกระบะเข้าอย่างจัง ซึ่งพวกตนก็ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย โชคดีที่ไม่มีรถขับสวนทางมา ไม่เช่นนั้นอาจจะเกิดเหตุชนกันซ้ำซ้อนอีกก็เป็นได้

ส่วนหญิงคนขับรถกระบะ ทราบชื่อต่อมาคือ นางศิริภรณ์ ไชยวงศ์ อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 70 หมู่ 8 ต.แม่สัน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ทราบว่า ได้เข้ามาทำธุระในตัวอำเภอเมืองกับลูกสาว และคาดว่าจะกลับรถเพื่อจะกลับบ้านที่ อ.ห้างฉัตร ซึ่งจุดดังกล่าวมีการทำทางลอดใต้สะพานเพื่อให้กลับรถไปขึ้นอีกฝั่งถนนได้ แต่ก็มักจะมีรถที่ไม่ลอดใต้สะพาน เนื่องจากต้องการความรวดเร็ว ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้งอย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำการสอบสวนสวนคู่กรณีทั้งสองฝ่ายอย่างละเอียดหนึ่งต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น