คืบหน้า เจอศพพระมรณะภาพในถ้ำ ตำรวจยังไม่ฟันธงสาเหตุการตาย รอผลแพทย์

จากกรณี เมื่อวันที่ 30 ม.ค.2562 พ.ต.ท.สมนึก คำพีระ รอง ผกก.สอบสวน สภ.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน รับแจ้งว่ามีชาวต่างชาติ ไปพบศพในถ้ำท่อ ในเขตบ้านแม่เหล็ก หมู่ที่ 8 ต.ทาขุมเงิน อ.แม่ทา จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมกับรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย เทศบาลตำบลทาขุมเงิน ในที่เกิดเหตุเป็นทางเดินสุดปลายถ้ำ ที่ผนังถ้ำเป็นซอกหินผาสูงจากพื้นถ้ำประมาณ 5 เมตร มีกลิ่นเหม็นโชยออกมา สภาพศพนอนหงาย จึงนำศพลงมาถูกห่อหุ้มด้วยเสื่อ ผ้าห่ม สีเขียว มีแผ่นพิล์มพันทับหลายชั้น เมื่อแกะออกมาทีละชั้นข้างในสุดศพศีรษะโล้นคล้ายกับพระภิกษุ ห่มด้วยจีวร ร่างเหลือแต่หนังแห้งหุ้มกระดูก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 2 ปี

ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่าก่อนรับแจ้งเหตุได้มีฝรั่งสองสามีภรรยา ได้พากันเข้ามาเที่ยวในถ้ำ ขณะเดินชมความงามภายในถ้ำ ได้กลิ่นเน่าเหม็นจึงเดินตามกลิ่นพบว่ามีศพอยู่ในซอกหินผา จึงแจ้งให้ตำรวจทราบดังกล่าว ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจภายในถ้ำ ทางเดินเป็นโขดหินลึกเข้าไป ผู้ตายอาจจะถูกฆาตกรรมมาจากที่อื่นแล้วนำศพมาซุกซ่อนไว้ในถ้ำเพื่อปกปิดความผิดก็อาจเป็นได้ ส่วนสภาพบริเวณนอกถ้ำ ห่างออกไปเป็นแคมป์ของเจ้าหน้าที่ป่าไม้ และมีกระท่อมของชาวบ้านที่ปลูกไว้ในสวนลำไยที่มีสวนล้อมรอบบริเวณถ้ำ ส่วนเส้นทางเข้าสู่ปากทางเข้าถ้ำ รถยนต์ไม่สามารถเข้าไปได้ นอกจากใช้รถจักรยานยนต์และเดินเท้าเท่านั้นจากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มอบหมายให้หน่วยกู้ชีพกู้ภัย เทศบาลตำบลทาขุมเงิน นำศพส่งโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง ตามข่าวที่เสนอไปแล้ว

ข่าวความคืบหน้า เมื่อวันที่ 1 ม.ค. 62 ทางด้าน พ.ต.ท.ปิยะพงษ์ ชำนาญ รอง ผกก.( ป ) สภ.ทากาศ อ.แม่ทา จ.ลำพูน ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้ทางผู้บังคับบัญชากำชับเรื่องการให้ข่าว ว่าให้ระมัดระวังเรื่องการนำเสนอข่าวเพราะข่าวนี้ยังไม่แน่ใจว่าพระภิกษุที่มรณะภาพนั้น เกิดจากสาเหตุใด และถูกฆาตกรรมหรือไม่ และเป็นใครมาจากไหน ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ทากาศ และ สืบสวนจังหวัดลำพูน กำลังเร่งตรวจสอบว่าผู้ตายเป็นใคร จนกระทั่งตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้า

เช่นเดียวกันกับผลการชันสูจน์ของแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ยังไม่ออกว่า ถูกฆาตกรรมทำให้เสียชีวิตหรือไม่ ต้องรอผลอย่างน้อยอาทิตย์กว่า ๆ จึงจะทราบผล อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ทำงานสืบสวนไปเรื่อย ๆ แต่ก็ยังไม่มีความคืบหน้า เช่นเดียวกันกับชาวบ้าน ก็ไม่มีใครรู้จักหรือมีคนหายเพราะจุดดังกล่าว อดีตที่ผ่านมาเคยมีพระธุดงถ์มาปักกลดอยู่ประจำ