ศึกเอเชียน คัพ 2019 รอบชิงชนะเลิศ ที่ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทีมชาติกาตาร์ ทำผลงานสุดยอด หลังโค่น ญี่ปุ่น อดีตแชมป์ 4 สมัย ลงได้ 3-1 ผงาดคว้าแชมป์ไปครองเป็นสมัยแรก โดย กาตาร์ ออกนำก่อน 2-0 จาก อัลโมเอซ อาลี นาทีที่ 12 และอับดูลาซิซ ฮาเตม นาทีที่ 27 จากนั้น นาทีที่ 69 ทาคูมิ มินามิโนะ จึงยิงให้ ญี่ปุ่น ไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 กระทั่งนาทีที่ 83 กาตาร์ จึงมาได้ประตูตอกฝาโลง 3-1 จากจุดโทษของ อาลี อาฟีฟ เป็นการคว้าแชมป์แบบไร้พ่าย
เปิดเกมเป็นนักเตะจากแดนซามูไร เปิดเกมรุกใส่ทันที ในขณะที่ กาตาร์ ตั้งรับก่อนและคอยสวนกลับ ยิงประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว 1-0 ญี่ปุ่นพอโดนยิงนำก่อน ก็โหมบุกอย่างหนักหวังแก้ประตูคืน แต่ก็มาพลาดโดนลูกที่สองอีก หมดครึ่งแรก กาตาร์ นำ 2-0
ในครึ่งหลัง ญี่ปุ่น ไปปรับแผนการเล่นใหม่ เปิดฉากบุกตั้งแต่ต้นเกม จนทำให้ กองหลัง กาตาร์ ทำงานอย่างหนัก หวุดหวิดที่จะตีไข่แตกหลายครั้ง แต่ไปพลาดในจังหวะสุดท้ายหมด ครึ่งหลัง เกมเป็นของ ญี่ปุ่นเกือบหมด แต่ก็มาตีไข่แตกในนาทีที่ 69 ตามมา 1-2 แต่ก็ทำได้แค่นั้น กาตาร์ เริ่มคุมเกมได้หมด มาท้ายเกม กาตาร์ก็มาได้ ประตูที่ 3 จากลูกจุดโทษจากการที่ นักเตะญี่ปุ่นไปทำแฮนด์บอลในเขตโทษ หมดเวลา กาตาร์ เอาชนะ แชมป์ 4 สมัยอย่างญี่ปุ่นท่วมท้น 3-1
- กาตาร์ เป็นทีมที่ 4 ในประวัติศาตร์ ที่ได้แชมป์ เอเอฟซี เอเชียน คัพ แบบคว้าชัยรวดทุกนัด (7 เกม) ต่อจาก เกาหลีใต้ (ปี 1960, แข่ง 4 ทีม), อิสราเอล (ปี 1964, แข่ง 4 ทีม) และ อิหร่าน (ปี 1968, แข่ง 5 ทีม; ปี 1972, แข่ง 6 ทีม; ปี 1976, แข่ง 6 ทีม)
- ศึก เอเอฟซี เอเชียน คัพ ครั้งนี้ กาตาร์ ทำประตูรวมกันถึง 19 ลูก แต่สถิติสูงสุดยังคงเป็น 21 ลูก ของ ญี่ปุ่น ที่ทำเอาไว้ในปี 2000 ตลอดเส้นทางก่อนถึงรอบชิงชนะเลิศ (6 เกม) กาตาร์ ไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว และเพิ่งจะมาเสียประตูแรกในเกมรอบชิงฯ หลังจากที่โดน ทาคูมิ มินามิโนะ ทำสกอร์ไล่ขึ้นมาเป็น 2-1 นาทีที่ 68 ซึ่งนั่นเท่ากับว่า กว่า กาตาร์ จะเสียประตูแรกในทัวร์นาเมนต์ต้องกินเวลานานถึง 608 นาทีเลยทีเดียว หรือเกินกว่า 10 ชั่วโมง
- นี่คือการเข้าชิงครั้งแรกของ กาตาร์ และพวกเขาก็ได้แชมป์ทันที ส่วน ญี่ปุ่น พ่ายในรอบชิงฯ เป็นหนแรก หลังจากที่ก่อนหน้านี้เข้าชิง 4 หน และได้แชมป์ทั้งหมด กาตาร์ ถือเป็นชาติที่ 9 ที่ได้แชมป์ เอเอฟซี เอเชียน คัพ ต่อจาก เกาหลีใต้ (2 สมัย), อิสราเอล, อิหร่าน (3 สมัย), คูเวต, ซาอุดีอาระเบีย (3 สมัย), ญี่ปุ่น (4 สมัย), อิรัก และ ออสเตรเลีย
ร่วมแสดงความคิดเห็น