70 ปี ที่รอคอย !! รัฐปลดล็อค กม. ป่าไม้ สามารถตัดไม้มีค่าในที่ดินกรรมสิทธิ์ได้

รัฐบาลปรับแก้ พ.ร.บ.ป่าไม้ ปี 2484 ที่บังคับใช้มานาน กว่า 70 ปี ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน ในที่สุดปรับแก้ไข มาตรา 7 ที่ได้กำหนดเกี่ยวกับไม้หวงห้ามที่ขึ้นอยู่ในที่ดินที่มิใช่ป่า ก่อให้เกิดปัญหาอุปสรรคต่อการทำไม้ในที่ดินของประชาชน

กฎหมายเดิม ระบุว่า “ไม้มีมูลค่าทางเศรษฐกิจบางชนิด ได้แก่ ไม้สัก ไม้ยาง ไม้ชิงชัน ไม้เก็ดแดง ไม้อีเม่ง ไม้พยุงแกลบ ไม้กระพี้ ไม้แดงจีน ไม้ขะยุง ไม้ซิก ไม้กระซิก ไม้กระซิบ ไม้พะยูง ไม้หมากพลูตั๊กแตน ไม้กระพี้เขาควาย ไม้เก็ดดำ ไม้อีเฒ่า และไม้เก็ดเขาควาย ไม่ว่าจะขึ้นอยู่ในที่ใด ๆ ก็ตามในราชอาณาจักร ถือเป็นไม้หวงห้ามทั้งสิ้น” ปรับแก้เป็น “ไม้ทุกชนิดที่ขึ้นในที่ดินมีกรรมสิทธิ์ หรือ สิทธิครอบครองตามประมวลกฎหมายที่ดิน ไม่เป็นไม้หวงห้าม” จึงทำให้…การทำไม้โดยเฉพาะไม้มีค่า ไม่ต้องทำเรื่องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่อีกต่อไป

กล่าวได้ว่า กฎหมายฉบับนี้ได้ยกเลิกการกำหนดไม้หวงห้ามในที่ดินกรรมสิทธิ์หรือสิทธิครอบครอง ตามประมวลกฎหมายที่ดิน เพื่อเป็นการส่งเสริมการปลูกไม้เศรษฐกิจของประชาชน โดยจะควบคุมเฉพาะไม้ในป่าเท่านั้น ไม่ควบคุมไม้ในที่มีหนังสือแสดงสิทธิ์ในที่ดินตามประมวลกฎหมายที่ดินข้างต้น เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนปลูกและตัดไม้ได้โดยสะดวก ไม่กระทบสิทธิ์และเพิ่มภาระให้แก่ประชาชน และสร้างระบบการรับรองไม้ในที่ดินของเอกชนเพื่อให้รู้แหล่งที่มาของไม้

ผลของการปรับกฎหมายฉบับนี้ จะทำให้ประชาชนมีรายได้ที่มั่นคงจากการประกอบอาชีพทำไม้ปลูกป่าเศรษฐกิจ ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศไทยดีขึ้น และในอนาคตใครที่มีที่ดิน สามารถปลูกไม้มีค่าในที่ดินของตนเองได้ และถ้าไม้โตแล้วอยากจะตัดไปขาย ก็สามารถทำได้โดยไม่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่แล้ว หรืออยากจะเอาไปเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกันก็สามารถทำได้เช่นกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น