ตำนานรักไม่สมหวัง…สู่ถ้ำหลวงอันโด่งดังของล้านนา

เนื่องในโอกาสวันวาเลนไทน์ที่เป็นช่วงเวลาที่อบอวลไปด้วยความรัก นั่นทำให้ผู้คนทั่วไป รวมถึงสื่อต่าง ๆ ได้พูดถึง และนำเสนอเรื่องราวแห่งความรักที่สมหวังดั่งใจนึกให้เห็นอยู่ร่ำไป

ซึ่งวันนี้ “เชียงใหม่นิวส์” ขอนำเสนอเรื่องราวของตำนานที่เกี่ยวกับรักที่ไม่สมหวัง นั่นคือเรื่องราวความรักต่างวรรณะระหว่างเจ้าหญิง และชายเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นจุดกำเนิดของ “ถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน” ที่หลายคนรู้จักนั่นเอง

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ เมืองเชียงรุ้งสิบสองปันนา มีราชธิดาองค์หนึ่งที่กล่าวกันว่าทรงมีพระสิริโฉมที่งดงาม ได้แอบรักกับชายเลี้ยงม้า ซึ่งเป็นการผิดกฎตามโบราณราชประเพณี จนกระทั่งพระราชธิดาเกิดตั้งครรภ์ เรื่องราวความรักของทั้งคู่จึงไม่เป็นความลับอีกต่อไป นั่นทำให้คู่รักต่างฐานันดรสองคนนี้หลบหนีตามกันมา พระราชบิดาก็รู้สึกเสียเกียรติที่ราชธิดาของตนหนีตามชายวรรณะต่ำ จึงได้ส่งทหารไล่ติดตามเจ้าหญิงคืนมาให้ได้

ทั้งสองระหกระเหินเดินป่า จนถึงร่มไม้ในที่ราบแห่งหนึ่งริมน้ำโขง ทว่าเจ้าหญิงที่ทรงพระครรภ์ได้หลายเดือนแล้ว ด้วยสภาพร่างกายจึงส่งผลให้เดินทางต่อไปไม่ไหว ชายหนุ่มจึงกำชับให้รออยู่ที่เดิม จากนั้นว่าที่พ่อลูกอ่อนจึงไปหาอาหาร

ดอยนางนอน

แต่แล้วกองทหารเชียงรุ้งตามมาทันเห็นชายคนรักของเจ้าหญิงในป่า จึงได้ทำการล้อมรุมสังหารชายหนุ่มจนตายคาที่ ฝ่ายเจ้าหญิงก็ได้รอชายคนรักจนเย็นมืดค่ำ แต่แล้วชายหนุ่มอันเป็นที่รักก็ไม่กลับมา

หลังจากรออยู่นานกองทหารของพระราชบิดาก็ออกมาจากชายป่า แล้วทูลเชิญกลับไปยังนครเชียงรุ้ง เจ้าหญิงจึงสังหรณ์ว่าชายคนรักจะเป็นอันตรายเสียแล้ว แต่ก็ได้ถามทหารว่าเห็นชายหนุ่มหรือไม่ ทหารก็ทูลตอบว่า ได้ฆ่าชายหนุ่มตามรับสั่งจากกษัตริย์ไปแล้ว

ขุนน้ำนางนอน

เมื่อทรงทราบดังนั้น เจ้าหญิงทรงเสียพระทัยอย่างยิ่ง คร่ำครวญเกลือกกลิ้งบนพื้น ใคร่ครวญเห็นว่าคนรักก็ได้ตายจากไปแล้ว ครั้นจะกลับนครเชียงรุ้งก็คงถูกลงโทษสาหัส อีกทั้งยังตั้งครรภ์กับชายเลี้ยงม้า ชาวเมืองคงจะดูแคลน ให้อายไปจนตลอดพระชนม์

เมื่อได้สติจึงตั้งสัจจะอธิษฐาน เอาความรักอันบริสุทธิ์เป็นที่ตั้ง ดึงปิ่นที่ปักผมออกมา แทงไปที่ขมับของตนเองจนโลหิตไหลออกมาเป็นสาย สิ้นพระชนม์อยู่ตรงนั้น

ถ้ำหลวง

สายพระโลหิตที่ได้หลั่งไหลออกมา ได้กลายมาเป็นต้นแม่น้ำแม่สายในทุกวันนี้ ส่วนพระวรกายของเจ้าหญิงที่นอนเหยียดยาวจากใต้จรดเหนือ ได้กลายเป็นดอยนางนอน อิตถีเพศของพระนางกลายเป็นถ้ำหลวง และส่วนของพระอุทรที่ทรงครรภ์ก็เป็นดอยตุง ส่วนที่เป็นพระเศียรกลายเป็นดอยท่า (ปัจจุบันเรียกดอยจ้อง) พระถันกลายเป็นดอยอีกลูกหนึ่งขึ้นมา เรียกว่าดอยแม่ย่า จนทุกวันนี้

เรียบเรียงโดย : “เชียงใหม่นิวส์”
ข้อมูลจาก : www.sanook.com, เฟซบุ๊คแฟนเพจ Lanna
ภาพจาก : i.ytimg.com

ร่วมแสดงความคิดเห็น