เปิด ม.ราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน สถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกและแห่งเดียว เพื่อผลิตบัณฑิตมาพัฒนาจังหวัด

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา นายวินัย ไชยวงค์ญาติ คณบดีวิทยาลัยแม่ฮ่อง สอน ปฏิบัติราชการแทนอธิการบดี ม.ราชภัฏเชียงใหม่ ถวายราชสดุดีพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เนื่องในโอกาส เปิดมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน บ้านทุ่งกองมู ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โดยมี นายประจวบ อาจารพงษ์ (อา-จา-ระ-พง) รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เป็นประธาน พร้อมด้วยส่วนราชการ คณาจารย์ นักศึกษา เข้าร่วมพิธี พร้อมกันนี้ก็ได้มีพิธีมอบทุนการศึกษาแก่มหาวิทยาลัย ฯ และมอบโล่ขอบคุณหน่วยงาน ที่ได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนมหาวิทยาลัยมาโดยตลอด

สำหรับ ม.ราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน เป็นสถาบันอุดมศึกษาแห่งแรกและแห่งเดียว ที่มีพื้นที่จัดการศึกษาระดับอุดมศึกษาใน จ.แม่ฮ่องสอน มานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ปี 2543 ได้ริเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรม โดยชาว จ.แม่ฮ่องสอนได้ร่วมกันจัดหาที่ดินในท้องที่ ต.ปางหมู เนื้อที่ 109 ไร่ มอบให้ ม.ราชภัฏเชียงใหม่ เข้าใช้ประโยชน์เพื่อจัดตั้งวิทยาเขตแม่ฮ่องสอน และวางศิลาฤกษ์อาคารเอนกประสงค์หลังแรก เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2547 และในปี 2548 รัฐบาลได้ออกกฎกระทรวงศึกษาธิการให้จัดตั้ง “ วิทยาลัยแม่ฮ่อง สอน” เป็นส่วนราชการในสังกัด ม.ราชภัฏเชียงใหม่ เพื่อทำหน้าที่ผลิตบัณฑิตวิจัย บริการวิชาการ และทะนุบำรุงศิลปะและวัฒนธรรม ตามภารกิจของสถาบันอุดมศึกษา

ต่อมา เมื่อวันที่ 19 พ.ย.2561 สภา ม.ราชภัฏเชียงใหม่ ได้มีมติให้ปรับสถานภาพขึ้นเป็น ม.ราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน “ ปัจจุบันเปิดทำการเรียนการสอนในระดับปริญญาตรี รวม 6 สาขา ได้แก่ หลักสูตรครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการประถมศึกษา, หลักสูตรวิทยาศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร, หลักสูตรสาธารณสุขศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชา สาธารณสุขชุมชน, หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร, หลักสูตรศิลปะศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน และหลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการการค้าชายแดน

นอกจากนี้ยังได้เปิดโรงเรียนสาธิต ม.ราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน รับนักเรียนเข้าเรียนในระดับชั้นเตรียมอนุบาล และระดับชั้นอนุบาล 1 และปัจจุบัน ม.ราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน ได้ผลิตบัณฑิตซึ่งจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี ออกไปรับใช้สังคมแล้วมากกว่า 1,000 คน

ร่วมแสดงความคิดเห็น