ภาพวงจรปิดของเทศบาลนครเชียงใหม่ จับภาพอุบัติเหตุจากวัยรุ่นซ้อน 3 จักรยานยนต์ฝ่าไฟแดงชนคู่กรณี แต่อาศัยช่วงชุลมุนซิ่งหลบหนี แต่พลเมืองดีใช้จักรยานยนต์ไล่ล่าติดตามจนไปประสบเหตุชนกับรถจักรยานยนต์อีกรอบบาดเจ็บ ก่อนพลเมืองดีตามรวบตัวไว้เรียกตำรวจ
ภาพวงจรปิดจากกล้อง CCTV ของทางเทศบาลนครเชียงใหม่ ที่สามารถจับภาพเหตุการณ์อุบัติเหตุเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาเวลาประมาณ1.05 น.(18กพ.62) ภาพแรกที่สี่แยกรินคำ มีรถจักรยานยนต์ซ้อน 3 เป็นชายวัยรุ่น 3 คน ขับฝ่าไฟแดงมาจากทางถนนห้วยแก้วมุ่งหน้าดอยสุเทพ แต่ได้เกิดเฉี่ยวชนกับรถคู่กรณีขับขี่มาด้วยกัน 2 คนที่ออกจากแยกรินคำมาจากทางถนนนิมมานเหมินทร์ เข้าอย่างจังจนรถทั้ง 2 คันล้มลง ทั้งหมดกระเด็นไปคนละทิศละทาง พลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์รีบเข้าไปช่วยเหลือ ขณะนั้นเองรถจักรยานยนต์คันก่อเหตุที่ซ้อน 3 ฝ่าไฟแดงมา อาศัยช่วงที่พลเมืองดีเข้าไปปฐมพญาบาลหญิงคู่กรณีที่บาดเจ็บ ตั้งรถขึ้นก่อนเรียกเพื่อนอีก 2 คนรีบขึ้นรถ ก่อนที่จะขับหลบหนีย้อนไปในเส้นทางเดิมที่ขับมาจากถนนห้วยแก้มมุ่งหน้าเข้าเขตคูเมืองเชียงใหม่
และขณะเดียวกันพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์เองก็รีบตะโกนเรียก ก่อนที่จะพากันขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตาม ตามทางเส้นทาง จนกระทั่งไปถึงสี่แยกไฟแดง บริเวณแจ่งหัวลิน คูเมืองเชียงใหม่ด้านนอก และคันซ้อน 3 ที่หลบหนีมาด้วยความเร็วก็ได้เกิดอุบัติเหตุซ้ำอีก โดยไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านที่มาด้วยกัน 2 คนล้มลงอีกคัน ประกอบกับพลเมืองดีที่ขี่รถตามไล่หลังมาทันก็ตรงเข้าไปควบคุมตัว พร้อมกับเตะและถีบ คนที่ก่อเหตุหลบหนีมาด้วยความโกรธ ก่อนที่จะเรียกรถพยาบาล และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ มาควบคุมตัวดำเนินคดี
ล่าสุดทางทีมข่าวได้ติดตามไปตรวจสอบภาพจากศูนย์CCTV ของเทศบาลนครเชียงใหม่ ซึ่งได้ภาพที่บันทึกเหตุการณ์ทั้งหมดไว้ได้อย่างชัดเจน ซึ่งว่าที่ร้อยตรี เกียรติศักดิ์ เพียรพลดีสกุล หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมจราจร เทศบาลนครเชียงใหม่ เผยว่าในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีกล้อง CCTV มากกว่า 500 ตัว ที่สามารถจับภาพเหตุการณ์ความเคลื่อนไหวต่างๆ ไว้ได้อย่างชัดเจนทั้งกลางวันกลางคืน เป็นประโยชน์ในการป้องกันอาชญากรรม และอุบัติเหตุ รวมทั้งเป็นหลักฐานชั้นดีในคดีต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะเรื่องของอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นจากความประมาท และหลายครั้งคนก่อเหตุไม่รู้ว่ากล้องที่ติดตั้งทั่วเมืองสามารถติดตามตัวได้ จึงอยากจะย้ำให้คนที่ฝ่าฝืนกฏจราจร หรือพยายามก่อเหตุอาชญากรรมต่างๆ ได้ตระหนักไว้ว่า ไม่ว่าจะก่อเหตุหรือหลบหนีไปทางไหนก็จะถูกบันทึกไว้ ซึ่งถือเป็นอีก 1 แนวทางในการป้องกันอุบัติเหตุ และลดอาชญากรรมของจังหวัดเชียงใหม่ลงได้อีกทาง
ร่วมแสดงความคิดเห็น