ลุงสี่ล้อแดงมือมีดยาว ชูควงใส่รถเก๋ง เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว เบื้องต้นรับผิด อ้างฉุนโดนขับปาดหน้า

ลุงสี่ล้อแดงมือมีดยาวชูควงใส่รถเก๋งคู่กรณีบนถนนกลางเมืองเชียงใหม่ขึ้นโรงพักรับทราบข้อกล่าวแล้ว ยอมรับผิดก่อเหตุจริง อ้างฉุนโดนขับปาดหน้าและบีบแตรใส่ เชื่อคนขับคู่กรณีเป็นผู้ชายไม่ใช่ผู้หญิง

จากกรณีที่โซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่ภาพคลิปวิดีโอที่รถสี่ล้อแดงรับจ้างคันหนึ่งขับเร่งตามจี้ท้ายรถเก๋งคันหนึ่งจากนั้นคนขับรถสี่ล้อแดงได้ถือมีดขนาดยาวไว้ในมือแล้วชูออกมานอกตัวรถ พร้อมกับกวัดแกว่งท่าทางคล้ายหาเรื่องและเรียกให้คนขับรถเก๋งจอด ซึ่งเหตุเกิดบนถนนมณีนพรัตน์ ในตัวเมืองเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 11 ก.พ.62 นั้น วันนี้(19 ก.พ.62) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองเชียงใหม่ นายบุญเนียม บุญทา ประธานประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด นำตัวนายสน นิยมรัตน์ อายุ 69 ปี ชาวอำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่ คนขับรถสี่ล้อแดงรับจ้างที่ก่อเหตุดังกล่าว เข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจและถูกแจ้งข้อกล่าวหา

โดยเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาฐานความผิดพกพาอาวุธไปในที่สาธารณะโดยเปิดเผยหรือไม่มีเหตุสมควร โทษปรับไม่เกิน 1,000 บาทและศาลมีอำนาจสั่งให้ริบอาวุธนั้น และทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญ โทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือปรับไม่เกิน 1,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ นอกจากนี้หากสอบสวนพบว่ามีการขับรถปาดหน้าคู่กรณีจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกฐานความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522

ทั้งนี้นายสน ยอมรับว่า ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยในวันเกิดเหตุมีผู้โดยสารอยู่ในรถจำนวน 1 คน กำลังจะขับไปส่งที่โรงพยาบาลสวนดอก ในช่วงก่อนเกิดเหตุถูกขับรถปาดหน้าและถูกบีบแตรใส่ด้วยความโมโหและโกรธ จึงขับตามไปและก่อเหตุดังกล่าวขึ้น โดยเชื่อมั่นว่าคนที่ขับรถยนต์เก๋งคู่กรณีนั้น เป็นผู้ชายอย่างแน่นอน ไม่ใช่ผู้หญิง เพราะหากเป็นผู้หญิงคงจะไม่ขับรถและกระทำลักษณะดังกล่าวกับตัวเอง และตัวเองคงไม่ก่อเหตุเช่นนั้น อย่างไรก็ตามยอมรับผิดและขอโทษกรณีที่เกิดขึ้น พร้อมถูกดำเนินคดีและลงโทษตามกฎหมาย

ขณะที่ประธานประธานสหกรณ์นครลานนาเดินรถ จำกัด กล่าวว่า กรณีดังกล่าวนี้รับแจ้งจากประชาชนว่าเกิดเหตุขึ้น ซึ่งไม่ได้นิ่งนอนใจและเร่งดำเนินการตรวจสอบและติดตามหาตัวคนขับรถสี่ล้อแดงคนดังกล่าวจนพบเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง โดยยอมรับว่าก่อเหตุจริง ซึ่งได้ทำการว่ากล่าวตักเตือนไปแล้วว่าเป็นการกระทำที่ไม่เหมาะสม อย่างไรก็ตามยังไม่ได้ลงโทษรุนแรงถึงการให้พ้นสภาพสมาชิก ส่วนการดำเนินการในส่วนของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจากนี้ไปให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมยืนยันว่าทางสหกรณ์ฯ มีการควบคุมดูแลและเน้นย้ำกำชับเรื่องมาตรฐานและมารยาทในการให้บริการกับสมาชิกอยู่เสมอ

ด้านพันตำรวจเอกปิยะพันธ์ ภัทรพงษ์สินธุ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นดังกล่าวส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดเชียงใหม่เป็นอย่างมาก แม้ว่าจะเป็นการกระทำของเพียงบางคนเท่านั้น โดยหลังจากที่ทราบเรื่องได้เร่งติดตามหาตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินการลงโทษตามกฎหมาย พร้อมทั้งเน้นย้ำให้ขอความร่วมมือจากคนขับรถสี่ล้อแดงให้ช่วยกันสอดส่องดูแลไม่ให้เกิดเหตุเช่นนี้อีก.

ร่วมแสดงความคิดเห็น