จากกรณี เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 20 ก.พ. 62 พ.ต.ท.เกรียงศักดิ์ โกมลสวรรค์ รอง ผกก. (สอบสวน) สภ.เมืองลำพูน ได้รับแจ้งเหตุวัยรุ่นไล่ทำร้ายกันในร้านสะดวกซื้อ (เซเว่นอีเลฟเว่น) เหตุเกิดบริเวณหน้าโรงพยาบาลลำพูน อ.เมือง จ.ลำพูน หลังจากได้รับแจ้ง จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ เมื่อไปถึงพบว่ากลุ่มวัยรุ่นที่ไล่ทำร้ายกันได้แยกย้ายกันหลบหนีไปแล้วที่เกิดเหตุไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ สาเหตุที่กลุ่มวัยรุ่นไล่ทำร้ายกันเนื่องจากคงจะกลับจากงานปอยหลวงวัดใกล้เคียง เขม่นกันจนมีเรื่อง แล้ววิ่งมาหลบในร้านสะดวกซื้อ จนมีกลุ่มคู่อริตามมาทันแล้วรุมทำร้ายกัน ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น
ข่าวความคืบหน้า เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 21 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังจุดเกิดเหตุที่ร้านสะดวกซื้อ( เซเว่นอีเลฟเว่น ) โดยพบว่าร้านสะดวกซื้อยังคงเปิดตามปกติและพบพนักงานภายในยังทำงานตามปกติ จากการสอบถามพนักงานหญิงที่ทำงานภายในร้าน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุนั้นตนเองทำงานช่วงดึกพอดีและสังเกตเห็นกลุ่มวัยรุ่นจำนวนมากมารวมกลุ่มกันด้านหน้าร้านพอซักพักได้ยินเสียงโวยวายจากวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มจนเกิดเรื่องชกต่อยกันขึ้นด้านหน้าร้านจนอีกฝ่ายสู้ไม่ไหวได้พากันหนีเข้าไปร้านสะดวกซื้อและอีกฝ่ายก็ได้ตามเข้ามาทำร้ายกันอีกภายในร้านตามที่ปรากฏตามคลิปที่กล้องวงจรปิดสามารถจับภาพไว้ได้ส่วนทรัพย์สินของร้านก็ไม่ได้เสียหายอะไรแต่ยังตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมากกว่า
ส่วน ทางด้าน พ.ต.อ.จีรัฐติกุล อรุณจันทร์ภักดี ผกก.สภ.เมืองลำพูน เปิดเผยว่า โดยหลังเกิดเหตุสั่งให้ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้ลงพื้นที่เพื่อหาเบาะแสแล้วในเบื้องต้นสามารถตรวจยึดรถจักยานยนต์ที่กลุ่มวัยรุ่นขับขี่มาได้หนึ่งคันและจากการตรวจสอบรถจักยายนต์คันดังกล่าวทราบแล้วว่าเจ้าของเป็นใครและได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ไปติดตามนำตัวมาเพื่อทำการสอบสวนและติดตามกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุร่วมด้วย
กลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายกันในร้านสะดวกซื้อนั้นส่วนใหญ่ยังเป็นเยาวชนกันอยู่อายุระหว่าง 15 – 20 ปีส่วนชนวนเหตุนั้นน่าจะมาจากวันเกิดเหตุได้มีการจัดงานปอยหลวงที่วัดแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำพูนและคาดว่าวัยรุ่นทั้งสองกลุ่มน่าจะเกิดเขม่นกันตั้งแต่ภายในงานแล้วและพอหลังงานเลิกก่อนได้ตามกันมาทำร้ายร่างกายกันอีกแต่ก็ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บร้ายแรงแต่อย่างไรและยังไม่ได้แจ้งข้อหากับฝ่ายใดเนื่องจากยังไม่มีผู้เสียหายมาแจ้งความร้องทุกข์รวมถึงทางร้านสะดวกซื้อก็ยังไม่ได้เดินทางแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจนี้ด้วย **
ร่วมแสดงความคิดเห็น