ร.ร.บางแห่งในเชียงใหม่ เริ่มติดตั้งเครื่องวัดและเครื่องฟอกอากาศ หลังคุณภาพอากาศยังเสี่ยง พร้อมคุมเข้มสุขภาพนักเรียน

เชียงใหม่ยังเผชิญหมอกควันและฝุ่น PM2.5 แม้หลายหน่วยงานระดมทำงานต่อเนื่องควบคุมสถานการณ์ ทั้งทางภาคพื้นและทางอากาศ ขณะที่โรงเรียนบางแห่งเข้มมาตรการดูแลเด็กนักเรียน ทั้งติดเครื่องวัดและฟอกอากาศ พร้อมประกาศหยุดเรียนหากสถานการณ์วิกฤติ

รายงานจากจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่าวันนี้(23 ก.พ.62) สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ถูกปกคลุมด้วยหมอกควันค่อนหนาทึบตลอดทั้งวันจนไม่สามารถมองเห็นยอดดอยสุเทพจากระยะไกลได้ตามปกติ ขณะที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันภาคเหนือ กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า ยังคงทำงานอย่างหนักต่อเนื่อง เพื่อพยายามควบคุมสถานการณ์ ด้วยการระดมเครื่องบิน อุปกรณ์ และกำลังพล สำรวจดับไฟทั้งทางอากาศและภาคพื้น

ทั้งนี้ผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศของกรมควบคุมมลพิษในตำบลช้างเผือก,ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ และตำบลช่างเคิ่ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่พบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM 2.5 เฉลี่ยในรอบ 24 ชั่วโมง ณ เวลา 09.00 น.วันนี้(23 ก.พ.62)อยู่ที่ 64 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร,65 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร และ 85 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ตามลำดับ โดยเกินมาตรฐานที่กำหนดไว้ไม่เกิน 50 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จนอยู่ระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

โดยจากสถานการณ์ปัญหาคุณภาพอากาศส่งผลให้สถาบันการศึกษา ทั้งมหาวิทยาลัยและโรงเรียนต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่ มีการออกมาตรการเพื่อเฝ้าระวังและป้องกันนักเรียนนักศึกษา ยกตัวอย่างเช่น มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ที่มีการออกประกาศขอปิดและงดการใช้สนามกีฬากลางแจ้ง หากผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 สูงเกิน 150.5 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร เพื่อความปลอดภัยของนักศึกษา บุคลากร และประชาชนทั่วไปที่ใช้สนามกีฬาออกกำลังกาย

ขณะที่โรงเรียนนานาชาติเมริทตัน บริติช ซึ่งตั้งอยู่ในอำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีเด็กนักเรียนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงระดับประถมศึกษาจากหลายประเทศ ประมาณ 100 คน ตระหนักและให้ความสำคัญมาตรการเฝ้าระวังป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนเช่นกัน โดยนางตีรนา แฮ็คเกตต์ ผู้บริหารโรงเรียน เปิดเผยว่า ทางโรงเรียนมีการเฝ้าติดตามสถานการณ์คุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดเป็นประจำทุกวัน ทั้งนี้ทางโรงเรียนมีการติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศไว้ทั้งภายนอกอาคารและภายในอาคาร ซึ่งจะมีการประเมินสถานการณ์ในเช้าทุกวัน พร้อมแจ้งให้ผู้ปกครองทราบด้วย

โดยหากตรวจวัดพบค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 และค่าดัชนีคุณภาพอากาศ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นจะเริ่มจำกัดการทำกิจกรรมกลางแจ้งของนักเรียน และหากอยู่ในระดับที่เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพจะให้ทำกิจกรรมอยู่แต่เฉพาะในห้องเรียน ที่นอกจากเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแล้วยังมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศไว้ด้วย เพื่อป้องกันผลกระทบสุขภาพอย่างดีที่สุด เนื่องจากเด็กเล็กเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงและอ่อนไหวต่อสถานการณ์มาก ซึ่งในกรณีที่แนวโน้มสถานการณ์รุนแรงถึงขั้นวิกฤติ เช่น ค่าAQI สูงเกิน 200 จากค่ามาตรฐานกำหนดไว้ไม่เกิน 100 จะประกาศแจ้งปิดเรียนทันที อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาสถานการณ์ยังไม่มีผลกระทบรุนแรง

ร่วมแสดงความคิดเห็น