เขตเมืองเก่าเชียงใหม่ หวั่นไม่เร่งคุม ชุมชนจะรุกที่โบราณเพิ่ม

เครือข่ายอนุรักษ์เมืองเชียงใหม่ และหน่วยวิจัยสังคม ม.ดังเชียงใหม่ ท้วงติงสื่อฯ เร่งกระทุ้งหน่วยงานที่กำกับดูแลพื้นที่เขตโบราณสถาน เขตเมืองเก่าเชียงใหม่ เร่งหามาตรการจัดการปัญหาชุมชนรุกทับที่โบราณสถาน โดยเฉพาะเขตเมืองในพื้นที่นครเชียงใหม่ ที่นับวันจะมีความสลับซับซ้อน ยากต่อการไล่รื้อ แก้ปัญหาที่สั่งสมมานาน

อาจารย์ผู้สอนกฎหมาย กล่าวในวงเสวนาว่า ป้ายระบุโบราณสถานแห่งนี้ ได้รับการคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ. โบราณสถานฯ 2504 แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ 2 พ.ศ.2535 ไม่ว่าจะเป็นย่านกำแพงงาม, เวียงเจ็ดลิน, เขตเมืองโบราณ ห้ามลักลอบ ขุดค้น บุกรุกหรือทำลาย ผู้ใดฝ่าฝืนมีโทษ จำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 7 แสนบาท ถ้าเป็นโบราณสถานที่ขึ้นทะเบียน โทษจำคุก ปรับหนักกว่านี้ ถึง 10 ปี ปรับเป็นล้านหรือทั้งจำและปรับ

โดยแง่บังคับใช้กฎหมายแล้ว เชียงใหม่ มีความยืดหยุ่นด้วยเหตุผลด้านอื่นๆมากมาย ทั้งมวลชน ,การรื้อถอน ทั้งๆที่ความจริงแล้ว บางที่อยู่อาศัย รู้ทั้งรู้ว่า เป็นที่เช่าอยู่ของแรงงานต่างชาติต่างถิ่น ใช้พื้นที่ผิดวัตถุประสงค์ สร้างอาคารพาณิชย์เพื่อจำหน่าย ให้เช่าช่วง บางจุดฟ้องรื้อถอนก็ทำไม่ได้ ผู้เกี่ยวข้องโยกย้าย ตามวาระ แต่ปัญหายังคงอยู่

โครงการศึกษาปัญหาชุมชน เมืองเชียงใหม่ ระบุว่า เมืองยิ่งพัฒนา การมีชุมชนที่ฝ่าฝืนกฎต้องเร่งแก้ไข เช่น ย่านคลองเงิน น่าจะเป็นโมเดลต้นแบบ ขยายไปยังพื้นที่อื่นๆได้ ด้วยแบบแผนเมืองปลอดชุมชน สลัมนำที่อยู่อาศัยรูปแบบที่เหมาะสม มาเป็นทางเลือกให้กลุ่มเหล่านี้

ปัจจุบันหน่วยงานท้องถิ่น ร่วมกับพัฒนาสังคมฯ และหลายๆหน่วยงานในเชียงใหม่ กำลังเร่งดำเนินการพัฒนาที่อยู่แนวดิ่ง เป็นอาคารตึกสูง เปิดโอกาสให้การจัดการชุมชนแออัด การรุกที่สาธารณะ เขตโบราณสถาน หากภายใน 5-10 ปี ผังเมืองและมาตรการบังคับใช้กฎหมาย ไม่มีประสิทธิภาพเพียงพอ ในเขตนครเชียงใหม่จะยิ่งมีชุมชนสลัมขยายตัว เพิ่มมากกว่านี้