ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ เตรียมสู้ภัยแล้ง บูรณาการทุกหน่วยงาน เตรียมพร้อมมาตรการรับมืออย่างเข้มข้น

เมื่อเร็วๆ นี้ นายรังสรรค์ บุศย์เมือง นักวิทยาศาสตร์ชำนาญการพิเศษ ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ กล่าวว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เตรียมความพร้อมในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าในเขตภาคเหนือ โดยให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงประจำภาคทั้ง 5 ศูนย์ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ เตรียมความพร้อมด้วยติดตามสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด เพื่อปฏิบัติการฝนหลวง สร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันไฟป่า และเติมน้ำให้กับเขื่อนเก็บกักน้ำในเขตภาคเหนือ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ความต้องการน้ำในแต่ละพื้นที่

ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ ได้เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง จำนวน 2 หน่วย ได้แก่ หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก ตามแผนปฏิบัติการฝนหลวง เพื่อป้องกันและแก้ไขภัยแล้ง และเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ เพื่อป้องกันการเกิดหมอกควันและไฟป่า จากการติดตามการรายงานข้อมูลคุณภาพอากาศ มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น และจากสำรวจความต้องการน้ำฝน ของพื้นที่ในเขตรับผิดชอบภาคเหนือ พบว่ามีความต้องการขอรับการสนับสนุนฝนหลวง จากการติดตามสภาพอากาศ มีโอกาสในการปฏิบัติการฝนหลวงเพิ่มมากขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ จึงได้ขออนุมัติจัดตั้งหน่วยปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2562 เป็นต้นไปดังนี้

1.หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ในการบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่า และเพื่อการป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้งและฝนทิ้งช่วงในเขตภาคเหนือและเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแม่กวงอุดมธารา เขื่อนแม่มอก และอ่างกักเก็บน้ำที่มีปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน ลำพูน ลำปาง พะเยา และจังหวัดตาก โดยมีเครื่องบินรวม 4 เครื่อง ได้แก่เครื่องบินชนิดกาซ่า จำนวน 2 เครื่อง เฮลิคอปเตอร์ 1 เครื่อง และเครื่องบินชนิดอัลฟาเจ็ต จำนวน 1 เครื่อง กองทัพอากาศสนับสนุนเครื่องบินพร้อมเจ้าหน้าที่ (สำหรับปฏิบัติการเมฆเย็น ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป)

2.เปิดหน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจังหวัดพิษณุโลก เพื่อปฏิบัติการฝนหลวงสร้างความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าไม้ ในการบรรเทาปัญหาหมอกควัน และไฟป่า และเพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง และฝนทิ้งช่วงในเขตภาคเหนือ เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำให้กับพื้นที่ลุ่มรับน้ำเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน เขื่อนแม่มอก และอ่างกักเก็บน้ำที่มีปริมาณต่ำกว่าเกณฑ์ปกติ ครอบคลุมพื้นที่จังหวัดพิษณุโลก อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พิจิตร เพชร บูรณ์ กำแพงเพชร และจังหวัดสุโขทัย โดยมีเครื่องบินรวม 4 เครื่อง ได้แก่เครื่องบินชนิดกาซ่า จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องบินชนิดซุปเปอร์คิงแอร์ 350 จำนวน 2 เครื่อง (สำหรับปฏิบัติการเมฆเย็น)

อย่างไรก็ตามศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงเหนือ จะติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์หมอกควันในพื้นที่อย่างใกล้ชิดต่อเนื่อง และพร้อมที่จะขึ้นบินปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่ร้องขอทันที ที่สภาพอากาศเหมาะสม รวมทั้งหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ เช่น พื้นที่เก็บเกี่ยวผลผลิต พื้นที่ประสบภัยและอื่นๆ

ทั้งนี้สามารถแจ้งข้อมูลสถานการณ์ ความต้องการฝนในพื้นที่โดยตรง ทางโทรศัพท์หมายเลข 053-275051 ต่อ 12 และ สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร ได้ทางเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตร www.royalrain. go.th หรือทาง Facebook ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคเหนือ

รวมทั้งมีบริการข้อมูลผลตรวจเรดาร์ฝนหลวงทั่วประเทศ บนหน้าเว็บไซต์กรมฝนหลวงและการบินเกษตรหรือเข้าถึงได้ที่ http://122.154.75.14/RRMThaiGov/RadarApp/RadarMainRoyalRain.php

ร่วมแสดงความคิดเห็น