พ่อเมืองไม่รอช้า!! ระดมกำลังเปิดยุทธการสยบไฟป่า และแก้ปัญหาหมอกควัน หลังวิกฤติหนัก PM 2.5 เกินมาตรฐานเป็นวันที่ 5 เน้นย้ำ ปชช.สวมหน้ากากอนามัย รักษาสุขภาพ

เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 16 มี.ค.62 ที่บริเวณลานเอนกประสงค์ประตูท่าแพ อ.เมืองเชียงใหม่ นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ ได้เป็นประธาน เปิดยุทธการสยบไฟป่าและแก้ปัญหาหมอกควัน ภายหลังจากที่ขณะนี้ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ และพื้นที่ใกล้เคียง กำลังประสบปัญหามลพิษหมอกควัน ที่เพิ่มปริมาณสูงจนเกินค่ามาตรฐาน และมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่

โดยในวันนี้ ได้มีการบูรณาการกำลังจากเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน จำนวนประมาณ 500 นาย จากหน่วยพิทักษ์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช 200 นาย, เครือข่ายอาสาสมัครไฟป่า 100 นาย, เจ้าหน้าที่ป้องกันรักษาป่า กรมป่าไม้ 100 นาย พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ กองกำลัง อส. ปกครอง 100 นาย นอกจากนี้ได้มีการเปิดรับบริจาคเงิน หรือสิ่งของ อาทิ เครื่องเป่าลม น้ำ อาหารแห้ง หน้ากากกันควันไฟ หรือไฟฉายติดศรีษะ ฯลฯ เพื่อสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ในยุทธการสยบไฟป่าแก้ปัญหาหมอกควันด้วย

โดยทาง นายศุภชัย เอี่ยมสุวรรณ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงใหม่ กล่าวว่า จากปัญหาหมอกควันไฟป่าที่ทวีความรุนแรงขึ้นในขณะนี้ ทำให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต่างให้ความสำคัญและเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหากันอย่างเร่งด่วน และไม่ได้นิ่งนอนใจกับปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา จ.เชียงใหม่ ภายหลังที่เกิดวิกฤติหมอกควัน ค่า PM 2.5 เพิ่มปริมาณสูง จนกระทั่งมีผลกระทบต่อสุขภาพของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ก็ได้มีการดำเนินการแก้ไขกันมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้มีการประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ และขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนในการงดเผาทุกชนิด เพื่อลดปริมาณฝุ่นละอองและหมอกควัน

ขณะเดียวกันก็ได้มีการประสานกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ที่ได้มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันมลพิษ และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า รวมถึงมาตรการสร้างความชุ่มชื้นในพื้นที่ตลอดช่วงที่ผ่านมา จนถึงวันนี้ ในพื้นที่ยังมีการดำเนินการฉีดพ่นน้ำตามท้องถนนและชุมชน โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ มีรถน้ำ 40 คัน กระจายอยู่ทั่วพื้นที่ นอกจากนี้ ในส่วนของชุมชนต่างๆ ตลอดจนทั้ง 25 อำเภอ ก็มีการระดมกันในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกันในส่วนของการดำเนินการทำฝนหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในพื้นที่นั้น จากการหารือกันทราบว่า ระยะนี้ในพื้นที่ของ จ.เชียงใหม่ นั้น มีสภาพอากาศแห้งแล้ง และพบว่าฝนไม่ตกลงมาประ มาณเกือบ 2 เดือนกว่าแล้ว และเกือบ 1 เดือน ที่ผ่านมานั้น จากการติดตามสภาพอากาศพบว่า ความชื้นในอากาศมีไม่ถึง 60 % เมื่อความชื้นไม่เพียงพอ จึงทำให้ไม่สามารถขึ้นบินทำฝนเทียมได้ ซึ่งเชื่อว่าหากพื้นที่จ.เชียงใหม่ เกิดฝนตกลงมาจะช่วยบรรเทาปัญหาหมอกควัน ที่เกิดขึ้นได้เป็นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการติดตามสภาพอากาศในพื้นที่ อย่างต่อเนื่องทุกวัน โดยหากมีความพร้อมทางสภาพอากาศแล้ว ก็พร้อมที่จะขึ้นทำฝนหลวงทันที นอกจากนี้ทางกองทัพภาค 3 ก็ได้สนับสนุนเครื่องบินโปรยน้ำตลอดทุกวัน วันละไม่ต่ำกว่า 2 เที่ยว เพื่อโปรยละอองน้ำในเขตชุมชนหลัก โดยได้มีการดำเนินการมา 2 วันแล้ว และจะมีการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ จะต้องได้รับความร่วมมือกันจากทุกภาคส่วน รวมไปถึงพี่น้องประชาชน

ส่วนในเรื่องของการจะประกาศให้จังหวัด เป็นพื้นที่ภัยพิบัติฉุกเฉินหรือไม่นั้น จะต้องมีการประเมินสถานการณ์อย่างชัดเจนอีกครั้ง เนื่องจากในขณะนี้สภาพอากาศยังทรงตัวอยู่ และบริเวณเขตที่เกิดปัญหานั้นเกิดขึ้นเป็นหย่อมๆ ซึ่งจะต้องมีการตรวจสอบอีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม ที่สำคัญคือการดูแลพี่น้องประชาชน โดยการแนะนำการรักษาสุขภาพ และการป้องกัน รวมไปถึงการณรงค์ให้มีการสวมหน้ากากอนามัยในช่วงระยะนี้ ก็จะมีการส่งเสริมให้ทางท้องถิ่น มีการแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น