หยุดซ้ำเติมข่าวร้ายเชียงใหม่ วิกฤติหมอกควัน แก้ได้ถ้าร่วมมือ ร่วมใจ

ผู้สื่อข่าวสอบถามประชาชน ผู้อาศัยในเขตเมืองแม่โจ้ อ.สันทราย เชียงใหม่ และบรรดานักศึกษา กรณีปัญหาหมอกควันที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ส่วนใหญ่มองว่า การนำเสนอข้อมูล สถิติค่ามลพิษต่าง ๆ นำไปสู่การตีความให้เชียงใหม่ เป็นแชมป์โลกติด ๆกันหลายวัน น่าห่วง

จริง ๆ แล้วฤดูกาลไฟป่า หมอกควัน เกิดขึ้นมาหลายปี และที่เป็นปัญหาหนัก ๆ จนเริ่มจุดกระแสหลายภาคส่วนให้ตื่นตัว ร่วมกันแก้ไข เกือบ 5-6 ปี และยกระดับเป็นวาระแห่งชาติ เมื่อปี 58 ก็พยายามดำเนินการตามมาตร การต่าง ๆ เรื่อยมา ที่ยังเป็นปัญหาอยู่คือ การบังคับใช้กฎหมาย ประกอบกับวิถีการทำเกษตรแบบเก่า ๆ ที่ยังไม่ปรับตัว

“สมชาย” (นามสมมติ) น้องนักศึกษา ม.ดังในเชียงใหม่ กล่าวว่า ทุกคนรู้ต้นตอปัญหาเหมือนที่บ้านตนเองที่ปัตตานี แต่ผู้นำชุมชน ทำคนเดียวไม่ได้ และหน่วยงานภาครัฐฯ ก็รู้กระบวนการจัดการ ความซับซ้อนของปัญหาสังคมที่เชียงใหม่ ในฤดูกาลนี้ พอถึงฝนก็หาย การใช้ชีวิตก็เป็นปกติ ที่เป็นกระแสใหญ่โต เพราะกระ หน่ำประเด็นเน้นปัญหา ไม่เน้นทางแก้ทางออก

ผู้ประกอบการนำเที่ยว ในเชียงใหม่ กล่าวว่า นักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวสงกรานต์เชียงใหม่ ยอดจองต่าง ๆ ปกติ ไม่ได้ยกเลิกรายการที่จอง ที่เป็นปัญหาขณะนี้คือ ไกด์เล่าให้ฟังจากการนำเที่ยว มีการพูดคุยในกลุ่มลูกทัวร์ ต่อข่าวสารที่นำเสนอ พูดแบบไม่เกรงใจกัน สื่อในพื้นที่ต้องนำเสนอข้อเท็จจริง ที่มุ่งถึงแนวทางแก้ปัญหา ไม่ใช่แห่พาดหัว เชียงใหม่แชมป์โลกที่ 1 ฝุ่นพิษ มลพิษถล่มเมือง พร้อมร่ายสาเหตุ ข้อมูลสถิติที่โยงปมมลพิษ หมอกควันไฟป่า จนทำให้รู้สึกว่า เชียงใหม่ เป็นเมืองอันตราย ในการใช้ชีวิต ไม่น่ารื่น รมย์กันเลย

ทั้ง ๆ ที่ทุกคนๆที่มาเที่ยวเชียงใหม่ ก็ต้องเรียนรู้การปรับตัว รู้วิธีดูแล ป้องกันสุขภาพจากปัญหาที่เกิดขึ้นตามฤดูกาล และเชียงใหม่ ในช่วง 4-5 ปี มีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง นักท่องเที่ยวเข้ามาในแต่ละปี จนต้องวางแผนพัฒนาสนามบิน ถนน บริการพื้นฐานรองรับ รายได้จากภาคท่องเที่ยวจะทะลุแสนล้าน แล้วมาซ้ำเติมข่าวร้าย ๆ ให้เชียงใหม่ ในช่วงแล้งที่เกิดภาวะต่างตามสภาพภูมิศาสตร์ ปัญหาการเผาที่ยังควบคุมไม่ได้ ทำไมไม่มุ่งตรงรูปแบบ วิธีการทำงานที่แต่ละฝ่ายทุ่มเททำกันอยู่ เห็นใจระดับปฏิบัติการในพื้นที่ ถ้าไปใส่ใจสื่อสังคม ความคิดเห็นต่าง ๆ ไม่ต้องทำงานกันแล้ว หมดแรง หมดกำลังใจกันหมด”