อินทนนท์ 1 ลุยจับเอง คนร้ายอ้างเป็นรองผู้ว่าและรองผู้การ หลอกเหยื่อ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 18 มี.ค.62 พลตำรวจโท มนตรี สัมบุณณานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พลตำรวจตรีสุรพล เปรมบุตร ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวนตำรวจภูธรภาค5 ทำการสอบปากคำนายสุทธิพงษ์ ยิ้มพ่วงสินธุ์ อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 10/4 ถนนราชพฤกษ์ แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ นายเมธาสิทธิ ลาภจิตร์ อายุ 29 ปีอยู่บ้านเลขที่ 571/1 หมู่ 10 แขวงบางเชือกหนัง เขตตลิ่งชัน กรุงเทพ ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงรายที่ 85-86/2562 ลงวันที่ 4 มีนาคม 2562 ในข้อหา”ร่วมกันฉ้อโกงทรัพย์(เงิน)โดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น” พร้อมของกลางเสื้อผ้าที่ใส่วันก่อเหตุ บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบซึ่งทั้งผู้ต้องหาทั้งสองคนเป็นอดีตกู้ภัย จากการสอบสวนผู้ต้องหายังให้การภาคเสธ และอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้โทรศัพท์ไปหลอกให้คนโอนเงินให้แต่เป็นเพียงคนไปกดเงินในบัญชีเท่านั้น

พลตำรวจโท มนตรี สัมบุณนานนท์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 ตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ ได้จับผู้ต้องหาพนันออนไลน์ 6 รายดำเนินคดีตามกฎหมายแต่ต่อมามีชายคนหนึ่งอ้างตัวเป็นรองผู้การตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ โทรไปหาพนักงานสอบสวนสภ.เมืองเชียงใหม่เจ้าของคดี เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องคดี และขอคุยกับกลุ่มผู้ต้องหา ซึ่งเสียงในโทรศัพท์เหมือนกับรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่มาก จนพนักงานสอบสวนหลงเชื่อ โดยคนร้ายได้คุยกับผู้ต้องหาขอเรียกรับสินบน 5 หมื่นบาทให้โอนเข้าบัญชีนาย นายพัสสัน เนียมแตง และจะมีการดำเนินการเรื่องคดีให้ โดยจะลดโทษให้เหลือโทษแค่ปรับ แต่หลังจากคนร้ายได้เงินก็เงียบหายไป ทำให้กลุ่มผู้เสียหายที่ถูกจับพนันเชื่อว่าตัวเองถูกหลอก จึงแจ้งความไว้ และก็มีอีกรายที่จังหวัดเชียงราย มีคนอ้างตัวเป็นนายอำเภอ โทรไปหาหมอฟัน ชื่อดังที่เปิดคลินิคใหญ่ที่กลางเมืองเชียงราย โดยอ้างว่า คลินิคดังกล่าวไม่มีใบอนุญาต และจะบุกจับ แต่หากได้เงินจำนวน 90000 บาทก็จะไม่จับแถมจะออกใบอนุญาต ให้ ทำให้หมอ ดังกล่าวหลงเชื่อโอนเงินไปให้แต่เมื่อคนร้ายได้เงินเรื่องก็เงียบหาย หมอดังกล่าวจึงเชื่อว่าถูกหลอก จึงไปแจ้งความไว้

โดยทั้งสองคดีมีการโอนเงินเขาบัญชีเดี่ยวกันและตำรวจก็สืบสวนก็พบผู้ต้อองหาทั้งสองคนเป็นคนไปกดเงินให้ โดยคดีนี้ตำรวจเชื่อว่าเป็นแก๊งร้อยเสียง มีคนในแก๊งไม่ต่ำกว่า 4-5 คน ขณะนี้กำลังขยายผลหาผู้ร่วมขบวนการมาดำเนินคดีเนื่องจากสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน ซึ่งพฤติกรรมของแก๊งนี้จะหาอ่านข่าวตามเพจและออนไลน์ต่างๆเมื่อรู้จุดอ่อนของผู้เสียหาย ก็จะโทรศัพท์ทำทีเขาไปช่วยเหลืออ้างตัวเป็นบุคคลของหน่วยงานต่างๆ อย่างเช่น ฝ่ายปกครอง /เจ้าหน้าที่ป่าไม้และตำรวจ ก่อนจะทำให้เหยื่อตายใจก่อนจะหลอกให้โอนเงิน วิ่งเต้นทางคดีให้ ซึ่งจากการตรวจสอบทางบัญชีนั้นพบว่าในแต่ละวันมีเงินหมุนเวียนวันละกว่า 1 ล้านบาท ดังนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อหาเจอเหตุการณ์ลักษณะนี้ขอให้แจ้งความไว้เป็นหลักฐานหรือ แจ้งเบาะแสมาได้ที่ศูนย์สืบสวนตำรวจภูธรภาค 5

ร่วมแสดงความคิดเห็น