หมอกควันฝุ่นพิษเชียงใหม่ ดึงกลไกกองทุนสุขภาพท้องถิ่นร่วมแก้

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากปัญหาหมอกควันในเชียงใหม่ นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวภายหลังลงพื้นที่เชียงใหม่ว่า สถานการณ์ฝุ่นควันที่เชียงใหม่ จากข้อมูลวัดคุณภาพอากาศน่าห่วง เพราะเริ่มมีผลต่อสุขภาพได้ อาทิ กลุ่มโรคระบบทางเดินหายใจ โรคระบบหัวใจและหลอดเลือด โรคตาอักเสบ เป็นต้น กลุ่มเสี่ยงก็จะมี เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคปอด หอบหืด และโรคภูมิแพ้ รวมถึงผู้ทำงานกลางแจ้ง

ขณะนี้ ทุกภาคส่วนต่างร่วมเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว เพื่อแก้ปัญหานี้ และกลไกกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ มีกลไกสำคัญคือกองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นหรือพื้นที่ จะเรียกกันสั้นๆว่ากองทุนสุขภาพท้องถิ่น ปัจจุบัน มี อปท. 7,738 แห่ง จากทั่วประเทศเข้าร่วม แต่ละปีมีการกระจายงบประมาณกว่า 4,000 ล้านบาท จากกองทุนนี้ร่วมสมทบ

แม้ว่าประชาชนทั่วไป จะมีสุขภาพแข็งแรง ถ้าต้องหายใจในสภาพอากาศเช่นนี้ นานๆต่อเนื่อง ย่อมอาจมีผลต่อสุขภาพร่างกายได้เช่นกัน และก่อให้เกิดโรคร้ายแรง อย่างโรคมะเร็งปอด โรคปอดเรื้อรัง โรคเรื้อรังอื่นๆ ดังนั้นการป้องกันภาวะเจ็บป่วยต้องร่วมกันแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

ทั้งนี้ อปท. แต่ละท้องถิ่น ที่เผชิญปัญหานี้ สามารถจัดทำโครงการภายใต้กองทุนหลักประกันสุขภาพท้องถิ่นเพื่อช่วยป้องกันภาวะเจ็บป่วยและโรคที่เกิดจากฝุ่นควัน ได้ให้ความรู้ประชาชน เพื่อลดฝุ่นควันในอากาศ เช่น ลดการเผาหญ้า ลดการเผาขยะ เป็นต้น

ด้าน นพ.เติมชัย เต็มยิ่งยง ผอ.สนง.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เขต 1 เชียงใหม่ กล่าวว่า ปัญหาฝุ่นควันที่เกิดขึ้น นอกจากพื้นที่เขียงใหม่แล้ว ใน 8 จังหวัดพื้นที่ภาคเหนือ ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เพื่อแก้ไขปัญหาทุกฝ่ายต้องช่วยกัน ประชาชน ในแต่ละชุมชน ท้องถิ่นสามารถนำเสนอ อปท.จัดทำโครงการร่วมแก้ปัญหา เพื่อลดภาวะเจ็บป่วยมายังคณะกรรมการบริหารกองทุน ที่มีผู้บริหารท้องถิ่น ซึ่งเป็นประธานเพื่อพิจารณาได้ หากสอดคล้องกับหลักเกณฑ์การใช้งบกองทุนสุขภาพท้องถิ่น ซึ่งเป็นกองทุนที่ สปสช.ร่วมมือกับ อปท. เป็น กองทุนของประชาชน เพื่อบริหารจัดการคุณภาพชีวิตสิ่งแวดล้อมที่ดีขึ้นร่วมกัน

ร่วมแสดงความคิดเห็น