แพทย์ชี้ชัด PM2.5 ส่งผลทำให้ผู้ป่วยโรคหัวใจเพิ่มสูงขึ้น

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจเชียงใหม่ระบุชัดฝุ่นPM2.5สุดอันตรายทำคนเสี่ยงตายเพิ่มทั้งระยะสั้นและระยะยาว กระตุ้นโรคกำเริบ ทำหลอดเลือดตีบตัน เฉพาะช่วงผ่านมาปีนี้พบทำคนป่วยเข้ารับการรักษาเพิ่มแล้ว2เท่าตัว แนะต้องมีการแจ้งเตือนภัยอย่างเป็นระบบทันท่วงที

วันนี้(21 มี.ค.62)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ช่วงหลายวันมานี้สภาพตัวเมืองเชียงใหม่ยังคงถูกปกคลุมด้วยหมอกควัน อย่างไรก็ตามเบาบางลงมากเมื่อเปรียบเทียบกับช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากกระแสลมที่พัดแรงและฝนตกบางจุดในพื้นที่ รวมทั้งการทำงานของทุกภาคส่วนที่เข้มงวดมาตรการป้องกันแก้ไขปัญหาทั้งการควบคุมการเผาและพ่นละอองน้ำเพิ่มความชุ่มชื้นทั่วพื้นที่

ทั้งนี้ทางด้านนายแพทย์รัตนชัย ชาญชัย แพทย์ผู้เชี่ยวชาญสาขาโรคหัวใจ โรงพยาบาลลานนา เชียงใหม่ ระบุว่า สถานการณ์ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กนั้น ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยที่รู้สึกได้ชัดเจน ได้แก่ แสบตา แสบจมูก คันตามเนื้อตามตัว ไปจนถึงระดับที่กระตุ้นให้โรคที่รุนแรงกำเริบโดยเฉพาะโรคทางเดินหายใจและโรคระบบหลอดเลือดและหัวใจ ซึ่งประเด็นปัญหามลภาวะอากาศมีผลกระทบต่อระบบหลอดเลือดและหัวใจ มีการตื่นตัวในต่างประเทศมากว่า 30 ปีแล้ว โดยพบว่าเมื่อใดที่มีการเกิดปัญหามลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะการเพิ่มตัวของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 จะส่งผลให้เกิดโรคหัวใจเพิ่มมากขึ้น และเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา องค์การอนามัยโลกได้ประกาศออกมาว่า ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่เพิ่มขึ้นเกินค่ามาตรฐานนั้นเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดการเสียชีวิตของประชากรโลกเป็นอันดับ 3 ของโลก

โดยจากการศึกษาพบว่าผลกระทบของฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 มีผลกระทบต่อระบบหัวใจ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ซึ่งในระยะสั้นนั้น จะไปกระตุ้นให้ตะกรันที่มีอยู่แล้วในหลอดเลือดเกิดแตกขึ้นมาซึ่งปฏิกิริยาของร่างกายจะคิดว่าเกิดแผลและจะมีการนำลิ่มเลือดมาอุดกลายเป็นเส้นเลือดอุดตัน ทำให้เกิดอาการแน่นหน้าอก หัวใจเต้นผิดจังหวะ ส่วนผลในระยะยาวนั้น ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ที่หายใจเข้าไปสู่ร่างกายจะเข้าไปในหลอดเลือดและจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบในหลอดเลือด จนนำไปสู่อาการหลอดเลือดในหัวใจตีบ ซึ่งฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 เมื่อสูดเข้าไปในร่างกายแล้ว ยากที่จะกำจัดออกมาได้ ดังนั้นดีที่สุดจึงควรป้องกันตัวเอง

สำหรับช่วงที่จังหวัดเชียงใหม่เผชิญสถานการณ์ปัญหาหมอกควันไฟป่าและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงเกินมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมาของปีนี้นั้น นายแพทย์รัตนชัย เปิดเผยว่า จำนวนผู้ป่วยที่เข้ามารับการรักษาโรคเกี่ยวกับระบบหัวใจ โดยเฉพาะหลอดเลือดหัวใจนั้น เพิ่มขึ้นจากภาวะปกติถึง 2 เท่า ซึ่งการป้องกันตัวของประชาชนเพื่อลดความเสี่ยงนั้น แนะนำว่าควรอยู่แต่ภายในอาคารและหลีกเลี่ยงการออกทำกิจกรรมนอกอาคาร หากจำเป็นให้สวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน ขณะที่หน่วยงานราชการ ควรมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงอันตรายของฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากสถานการณ์รุนแรงและค่าฝุ่นละอองขนาดเล็กPM2.5เกินมาตรฐาน ควรจะต้องมีการประกาศแจ้งเตือนให้ประชาชนรับทราบอย่างเร่งด่วนเพื่อป้องกันตัวเองจากอันตรายที่จะเกิดขึ้นทั้งระยะสั้นและระยะยาว.

ร่วมแสดงความคิดเห็น