เจอตัวแล้ว คนขับกระบะชนท้าย จยย. แยกศาลเด็ก เจ้าตัวอ้างหลับใน ไม่รู้ว่าชนอะไร เตรียมนัดเจรจาชดใช้ค่าเสียหายกับคนชนอีกครั้ง

วันที่ 21 มี.ค.62 รายงานข่าวแจ้งว่า จากกรณีที่บนโลกโซเชียลได้มีการโพสต์เรื่องราวเหตุการณ์ อุบัติเหตุรถยนต์กระบะ มาสด้า สีขาวคันหนึ่ง ขับพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์ที่จอด ติดไฟแดงบริเวณแยกศาลเด็ก จนคนขับรถจักรยานยนต์ล้มหงายหลังร่างตกกระแทกพื้นถนน และรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย แต่คนขับรถกระบะคันดังกล่าวกลับขับรถไปทำอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น แล้วยูเทิร์นข้ามไปอีกฝั่ง ขับหลบหนีไปทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์สาย เชียงใหม่ – ลำปาง ท่ามกลางพยานที่เห็นเหตุการณ์ซึ่งจอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณดังกล่าวเป็นจำนวนมาก ซึ่งหลังภาพเหตุการณ์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ไปแล้วนั้น มีผู้พบเห็นต่างเข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อว่าการกระทำของคนขับรถกระบะกันเป็นจำนวนมาก และเรียกร้องให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งติดตามเบาะแสผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดี ตามที่ได้มีการนำเสนอข้อมูลไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุดเกี่ยวกับกรณีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้ทำการติดต่อไปยังเจ้าของคลิปต้นเรื่องนี้ ซึ่งภายหลังทราบชื่อคือ นางสาวภัสวรรณ ชมภูจันทร์ อายุ 33 ปี ทราบว่า ในวันเกิดเหตุนั้นเป็นช่วงเย็น ตามวันเวลาที่ปรากฏภายในคลิปหน้ารถ ซึ่งขณะที่กำลังจอดรถติดไฟแดงอยู่บริเวณท้ายรถจักรยานยนต์นั้น ซักพักก็มีรถยนต์กระบะ มาสด้า สีขาว วิ่งมาทางเลนด้านขวาสุด ซึ่งเป็นเลนที่เปิดช่องไว้ให้รถสามารถวิ่งยูเทิร์นที่บริเวณแยกดังกล่าวได้ ซึ่งขณะนั้นรถจักรยานยนต์ได้จอดอยู่ในเลนด้านซ้าย โดยเว้นช่องทางห่างมาก ไม่ได้จอดขวางหรือล้ำออกไปแต่อย่างใด แต่จู่ๆ รถกระบะคันดังกล่าวก็วิ่งมาแล้วหักเข้ามาชนอย่างจัง ทำให้คนที่อยู่ในที่เกิดเหตุต่างพากันตกใจอย่างมาก โดยหลังจากนั้นตนก็เห็นว่า คนขับรถกระบะได้พยายามหักรถกลับเข้าเลนเดิม แล้วขับออกไปจากที่เกิดเหตุนิดหน่อยก่อนจะเลื่อนกระจกดู ซึ่งทีแรกนึกว่าทางคนขับจะจอดรถแล้วลงมาดู แต่ก็กลับขับต่อไป จนกระทั่งผ่านยูเทิร์นไป โดยหลังจากนั้นตนก็ได้ลงไปดูคนถูกชน และได้มีการเดินทางไปแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ปิง ในเวลาต่อมา

ทั้งนี้หลังจากที่มีกระแสข่าวในโซเชียลถูกเผยแพร่ออกไปอย่างมากแล้วนั้น ล่าสุดเมื่อวานนี้ ทางด้านคนขับรถกระบะ มาสด้า ได้ติดต่อมาหาผู้เสียหายแล้ว ซึ่งทราบเบื้องต้นเป็นชายวัยกลางคน โดยสาเหตุคร่าวๆ เจ้าตัวอ้างว่า ตอนเกิดเหตุนั้นได้เกิดหลับในทำให้รถหักเข้ามาทางเลนด้านซ้ายแล้วเกิดชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย แต่ระหว่างที่ชนไปแล้วนั้นก็เกิดตกใจแล้วไม่รู้ว่ารถได้ชนกับอะไร จึงขับผ่านไป โดยยังได้จอดดูอยู่ที่บริเวณก่อนจะยูเทิร์น แต่ก็มองไม่เห็นจึงขับต่อไปจนกระทั่งยูเทิร์นรถมาอีกฝั่ง ซึ่งขณะนั้นได้ก็ได้จอดรถดูอีก 2-3 ครั้ง จากฝั่งตรงข้าม แต่ไม่เห็นจึงขับไปในที่สุด จนกระทั่งมีคลิปเหตุการณ์จากกล้องหน้ารถปรากฏในโซเชียล จึงได้พยายามติดต่อกับทางผู้เสียหายเพื่อพูดคุยแสดงความรับผิดชอบแล้ว

ขณะที่ทางด้าน นายเสกสรร เข็มประดับ อายุ 42 ปี ผู้เสียหายที่ถูกกระบะคันดังกล่าวพุ่งชนท้ายจนหงายหลังตามที่ปรากฎภายในคลิป ได้ให้สัมภาษณ์กับทางผู้สื่อข่าวว่า ในวันเกิดเหตุได้ขับรถจักรยานยนต์ไปซื้อของ แล้วกำลังจะขับรถกลับบ้านที่ดอยสะเก็ด จนกระทั่งมาถึงยังบริเวณสี่แยกศาลเด็กที่ต้องจอดติดไฟแดง ซึ่งขณะนั้นก็ได้จอดรถอยู่บริเวณเลนด้านซ้าย ที่ต้องเว้นช่องทางเลนขวาเพื่อให้รถสามารถวิ่งยูเทิร์นได้ โดยขณะจอดได้ซักพัก ไม่ทันตั้งตัวก็มีรถกระบะคันดังกล่าวขับมาพุ่งชนอย่างจังจนตัวเองหงายหลัง ศีรษะกระแทกเข้ากับรถยนต์อีกคันที่จอดอยู่ข้างกัน อีกทั้งร่างตกกระแทกกับพื้น แต่โชคดีที่ตัวเองสวมหมวกนิรภัย ทำให้ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก และมีบาดแผลถลองเล็กน้อยที่หัวเข่า ซึ่งขณะนั้นเหตุการณ์ค่อนข้างชุลมุน หลังจากที่ตัวเองยืนขึ้นมาได้ก็พบรถคู่กรณีขับไปจอดอยู่ที่บริเวณด้านหน้าก่อนจะถึงยูเทิร์นแล้ว ซึ่งตอนแรกคิดว่าจะลงมาดู แต่ก็กลับขับออกไปตามที่ปรากฏภายในคลิป หลังจากนั้นตนก็จึงมาดูความเสียหายของรถ ซึ่งขณะนั้นก็มีผู้เสียหายอีก 1 ราย ที่ถูกชนด้วยเป็นนักศึกษา โดยทุกคนต่าง งง กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและการกระทำของคนขับ จากนั้นจึงเดินทางเข้าแจ้งความกับตำรวจเพื่อเป็นหลักฐานติดตามตัวคู่กรณี

อย่างไรก็ตาม นายเสกสรร บอกว่า ในขณะนี้ทางด้านคู่กรณีที่ขับรถชนนั้นได้มีการโทรศัพท์ติดต่อมาหาแล้ว แต่ยังไม่ได้เข้าไปรายงานตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยเบื้องต้นได้มีการพูดคุยกันแล้วแต่เนื่องจากมีผุ้เสียหายอีกราย ดังนั้นจึงจะมีการนัดเจรจารับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอีกครั้ง ซึ่งส่วนตัวนั้นตนก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมาก เพียงแต่รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย โดยในส่วนของการรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายหรือรายละเอียดต่างๆ นั้นก็จะมีการพูดคุยกับทางคู่กรณีคนขับชนอีกครั้ง ซึ่งต้องรอการนัดหมายกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อเป็นพยานในการดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น