รวบแล้วสาวก่อเหตุงัดแงะ ม.ดังเชียงใหม่ พบประวัติโชกโชน ก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง มหาวิทยาลัยทั่วประเทศ สารภาพหาเงินเลี้ยงลูก 2 คน และติดการพนัน

เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 25 มี.ค.62 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 5 เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมตัว น.ส.แอม มาสิงห์ อายุ 32 ปี ที่อยู่ 224/1 หมู่ที่ 1 ต.หลักช้าง อ.ช้างกลาง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยของกลาง เสื้อยืดคอกลมสีดำ จำนวน 1 ตัว , กางเกงวอร์ม ขายาว สีกรม จำนวน 1 ตัว , เสื้อวอร์มแขนยาว สีดำ มีแถบบริเวณแขน จำนวน 1 ตัว และกระเป๋าสะพายหลังสีดำ จำนวน 1 ใบ ดำเนินคดีข้อหา “ลักทรัพย์ในสถานที่ราชการในเวลากลางคืน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยเข้าช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า” เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำคืนเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 9 มี.ค.62 ถึงวันที่ 10 มี.ค.62 เวลา 07.00 น. ที่บริเวณอาคารสำนักงานภายในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ และได้จับกุมตัวได้ภายในห้องพักเลขที่ 126 โรงแรมเอราวัณ ต.ห้วยจรเข้ อ.เมืองนครปฐม จ.นครปฐม

ทั้งนี้สืบเนื่องมาจากช่วงค่ำคืนของวันที่ 9 มี.ค.62 ที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.ช้างเผือก จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุคนร้ายเข้าไปก่อเหตุลักทรัพย์ในอาคารสำนักงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ โดยการงัดกรงเหล็กหน้าต่าง เข้าไปรื้อค้นทรัพย์สินได้เงินสดไปประมาณ 194,000 บาท ภายหลังทราบเรื่องจึงได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและติดตามสืบสวนเบาะแสของคนร้ายที่ก่อเหตุรายนี้จนทราบว่ามีลักษณะการก่อเหตุเดียวกันกับคนร้ายที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่เมื่อวันที่ 19 พ.ย.61 , มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เมื่อ 7 มี.ค.62 , และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ เมื่อวันที่ 8 มี.ค.62 นอกจากนี้ยังทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุดังกล่าว ก็ได้มาก่อเหตุตามหมาวิทยาลัยและสถาบันราชภัฏในเขตพื้นที่ภาค 5 ช่วงปลายเดือน พ.ย.61 ในพื้นที่ จ.เชียงราย , พะเยา , และลำปาง เมื่อทราบดังนั้นทางเจ้าหน้าที่จึงได้เร่งดำเนินการสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้โดยการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและความเคลื่อนไหวของคนร้ายตั้งแต่ก่อเหตุไปจนถึงโรงแรมที่พักของคนร้าย จนทราบว่าคนร้ายที่ก่อเหตุนั้นคือ น.ส.แอม มาสิงห์ อายุ 32 ปี แต่หลังก่อเหตุได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปแล้ว ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนจึงได้รวบรวมหลักฐานและขออนุมัติออกหมายจับ

ต่อมาสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ และ สภ.ช้างเผือก ก็ได้ทำการสืบสวนติดตามตัวเพื่อจับกุมตามหมายจับดังกล่าวเรื่อยมา กระทั่งทราบข้อมูลเบาะแสว่า น.ส.แอม มาสิงห์ ได้หลบพักอาศัยอยู่ในพื้นที่ ต.ห้วยจรเข้ อ.เมืองนครปฐม และก็ทราบข้อมูลว่ามีเหตุลักทรัพย์ลักษณะเดียวกันในพื้นที่ดังกล่าวอีกเช่นกัน ซึ่งเชื่อว่าเป็นการกระทำของ น.ส.แอม อย่างแน่นอน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ทำการสืบสวน จนวันที่ 23 มี.ค.62 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.เชียงใหม่ และ สภ.ช้างเผือก ได้พร้อมเดินทางไปยัง จ.นครปฐม แล้วได้ประสานความร่วมมือกับชุดสืบสวน สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ลงพื้นที่ทำการสืบสวนตรวจสอบหาตัว น.ส.แอม ไปตามสถานที่เช่าพักต่างๆ ในพื้นที่ กระทั่งได้พบตัว น.ส.แอม ที่โรงแรมเอราวัณ ต.จรเข้ อ.เมืองนครปฐม จึงได้จับกุมตัวตามหมายจับ และข้อกล่าวหาดังกล่าว

ทั้งนี้ จากการสอบสวน น.ส.แอม รับสารภาพว่า ได้ลักทรัพย์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.62 จริงตามคดีที่ถูกออกหมายจับ โดยได้อาศัยวิธีการเข้าไปแฝงตัวเดินดูลาดเลาในสถานที่ก่อเหตุตั้งแต่ช่วงเย็น จนกระทั่งรอให้ถึงช่วงค่ำคืนที่ปลอดสายตาคนลงมือก่อเหตุ ด้วยวิธีการใช้ค้อนงัดกรงเหล็กหน้าต่างแล้วเข้าไปทำการก่อเหตุลักทรัพย์ โดยจะทำการค้นหาทรัพย์สินภายในอาคาร และอยู่ฝั่งตัวในนั้นรอจนกระทั่งถึงช่วงเช้ามืดจึงอาศัยช่วงนั้นหลบหนี โดยที่ผ่านมาได้ก่อเหตุมาแล้วตามมหาวิทยาลัยทั่วประเทศไทย มานานกว่า 5 ปี แล้ว และก่อเหตุมาไม่ต่ำกว่า 50 ครั้ง ด้วยการตระเวนก่อเหตุตามมหาวิทยาลัยต่างๆ ในลักษณะคล้ายๆ กัน ส่วนสาเหตุที่ก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้ก็สืบเนื่องมาจากต้องการหาเงินไปเลี้ยงลูก 2 คน ประกอบกับตัวเองติดการพนันหวยหุ้น ต้องนำเงินมาใช้ลงทุน โดยเล่นครั้งละหลายหมื่นบาท พอเงินหมดก็จะก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวอีก จนกระทั่งถูกจับกุมได้ในที่สุด

ขณะที่ทางด้าน พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากากรตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหาพบว่ามีการก่อเหตุในลักษณะดังกล่าวมาแล้วหลายครั้ง ส่วนสาเหตุที่ทางผู้ต้องหาเลือกลงมือในมหาวิทยาลัย ก็เนื่องมาจากมหาวิทยาลัยนั้นเป็นสถานที่เปิดไม่เหมือนโรงเรียน ซึ่งเมื่อผู้ต้องหาแต่งตัวธรรมดาก็สามารถเข้าไปได้เพราะเหมือนนักศึกษาหรือประชาชนทั่วไป แต่หากเลือกก่อเหตุในโรงเรียนหรือสถานศึกษาอื่นๆ จะดูมีพิรุธ และจะเลือกเข้าไปในช่วงเย็นใกล้เลิกงานประมาณ 17.00 น. จากนั้นก็จะมีการเดินดูลาดเลา รวมทั้งดูเส้นทางเข้าออก และรอจนกระทั่งถึงช่วงค่ำ เวลาประมาณ 21.00 – 22.00 น. ซึ่งเป็นช่วงปลอดคน แล้วลงมือก่อเหตุโดยเลือกห้องการเงิน โดยการใช้อุปกรณ์คือค้อนงัดกรงเหล็ก หรือเหล็กดัด ประตุและหน้าต่าง จากนั้นก็เข้าไปขโมยทรัพย์สินที่อยู่ภายในแล้วฝังตัวรอเวลาจนกระทั่งถึงเช้ามือจึงหลบหนีออกมา และอาศัยว่าเป็นผู้หญิงเดินทางมาคนเดียวจึงไม่เป็นที่ผิดสังเกต

ขณะเดียวกันจากการสอบสวนผู้ต้องหาพบว่าคนร้ายรายนี้ได้ลงมือก่อเหตุเพียงลำพังไม่มีใครร่วมมือกระทำด้วย และครั้งล่าสุดได้ลงมือก่อเหตุในมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในพื้นที่ภาคกลาง มูลค่าความเสียหาย ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท ส่วนการดำเนินการติดตามจับกุมตัวนั้นก็เป็นผลมาจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายในการติดตามและแจ้งเบาะแส รวมไปถึงได้หลักฐานสำคัญจากภาพกล้องวงจรปิดทำให้สามารถติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ได้ในที่สุด โดยหลังการสอบสวนแล้ว จะได้ส่งตัวผู้ต้องหาให้ทาง พนักงานสอบสวน สภ.ช้างเผือก กำเนินคดีตามกำหมายต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น