ที่จังหวัดเชียงรายหลังจากที่พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งถือว่าเป็นม้ามืดที่สามารถล้มช้างในเขตเลือกตั้งที่มีพรรคการเมืองใหญ่อย่าง เพื่อไทย และพลังประชารัฐลงได้ ซึ่งผู้สมัครเองก็เป็นคนรุ่นใหม่ทีไม่เคยอยู่ในแวดวงการเมืองมาก่อน ทำให้เป็นที่จับตาของประชาชน และหลายฝ่าย โดยในเขต 1 นั้น คือ นายเอกภพ เพียรพิเศษ หรือหมอเอก เบอร์ 6 พรรคอนาคตใหม่ ซึ่งหมอเอก อายุ 43 ปี เป็นแพทย์สาขาเวชศาสตร์การกีฬา จากโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คเชียงราย และเป็นแพทย์ประจำทีมฟุตบอลสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด ก่อนหน้าที่จะเข้ามาสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในจังหวัดเชียงรายนั้นพบว่าการเมืองในประเทศมีความขัดแย้งมาโดยตลอด ทำให้บ้างเมืองไม่สงบสุข และก็ได้มาพบกับพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งมีนโยบายพรรคที่มีจุดยืนชัดเจนและเป็นการเมืองรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นในประเทศไทยมาก่อน จึงได้ตัดสินใจสมัครเป็นผู้สมัครทางออนไลน์ หลังจากนั้นก็ได้มีการเรียกเข้าไปสัมภาษณ์ซึ่งก็พบว่ามีทัศนคติที่ตรงกันจึงได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 จ.เชียงราย
โดยก่อนที่จะลงสมัครอย่างเป็นทางการก็ได้ยื่นไปลาออกจากโรงพยาบาลโอเวอร์บรุ๊คแล้ว เพื่อจะได้ทำงานทางการเมืองอย่างเต็มความสามารถเมื่อได้รับการเลือกตั้ง และก็ได้วางแผนไว้ว่าหากไม่รับการเลือกตั้งก็จะยังคงทำหน้าที่สมาชิกของพรรคอนาคตใหม่ต่อไป เพื่อดำเนินการทางด้านการเมืองเหมือนกัน ผู้สมัครคนอื่นๆที่ไม่ได้รับการเลือกตั้ง แต่ก็จะกลับมาทำงานเป็นแพทย์เหมือนเดิม ซึ่งหลังจากที่ได้รับเลือกตั้งแล้วก็จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในสภา เพื่อที่จะสร้างความเปลี่ยนแปลงทางการเมืองแบบใหม่ในแบบของพรรคอนาคตใหม่ ซึ่งพรรคมีอุดมการณ์และมีจุดยืนที่ชัดเจน
“สำหรับการทำงานในพื้นที่ จ.เชียงรายนั้นหลังจากนี้ก็พร้อมที่จะทำงานร่วมกับ คุณสามาร แก้วมีชัย และคุณรัตนา จงสุทธานามณี ได้ในแนวทางที่เป็นการพัฒนาบ้านเมือง สานต่อสิ่งที่ดีอยู่แล้วให้ดีขึ้นไปกว่าเดิม ไปพร้อมๆกับการเปลี่ยนแปลงในการเมืองรูปแบบใหม่ ต้องขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ที่ทำให้เห็นว่าการจะเข้ามาเป็นนักการเมืองไม่ต้องมีหัวคะแนนไม่ต้องมีการซื้อเสียง หรือใช้เงินจำนวนมหาศาล เพียงแต่อุดมการณ์ที่ชัดเจน และพร้อมที่ทำเพื่อประชาชน เพื่อให้เชียงรายดีขึ้น” หมอเอก กล่าว
ด้านเขตเลือกตั้งที่ 6 ของ จ.เชียงราย ที่นายพีรเดช คำสมุทร ผู้สมัครหมายเลข 1 พรรคอนาคตใหม่ อีกคนที่สามารถชิงเก้าอี้ ส.ส.มาครองไว้ได้ โดยล้มช้างอย่างนาย อิทธิเดช แก้วหลวงผู้สมัครจาก พรรคเพื่อไทย ไปได้ โดยนายพีรเดช ในวัน 32 ปี ประกอบอาชีพค้าขาย มีธุรกิจครอบครัวประกอบธุรกิจโรงแรมใน อ.แม่สาย ธุรกิจร้านอาหาร และอสังหาริมทรัพย์ โดยก่อนหน้าที่จะลงสมัครเป็นผู้รับเลือกตั้งครั้งนี้ได้รู้จักกับพรรคอนาคตใหม่ในช่วงเริ่มแรก ก็ชอบวิสัยทัศน์ของพรรค และเมื่อพรรคมีการทำกิจกรรมก็จะเข้าร่วมเพื่อสังเกตการณ์รวมไปถึงดูวิธีการทำงานของพรรค ซึ่งทางพรรคมีคนทำงานร่วมกันไม่มีแบ่งแยกตั้งแต่คนงานทั่วไป ถึง ด๊อกเตอร์ ก็มาทำงานขับเคลื่อนร่วมกัน
โดยการลงสมัครครั้งนี้ก็ไม่ได้หวังว่าจะสามารถชนะเลือกตั้งในเขตนี้เพราะเห็นว่ามีนักการเมืองที่มีฐานเสียงในพื้นที่อยู่แล้ว และที่ผ่านมาก็อยู่ห่างไกลคำว่าการเป็นนักการเมือง แต่การชนะในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จำทำหน้าที่เพื่อประชาชนตามแนวทางของพรรคให้ดีที่สุด ในส่วนของทางบ้านเองก็สนับสนุนให้ลงสมัครกับพรรคอนาคตใหม่ โดยคุณพ่อชอบนโยบายของพรรคนี้มาก แต่ไม่สามารถลงสมัครเองได้ เพราะอายุมากแล้ว จึงได้สนับสนุนให้ลงสมัคร
ซึ่งการหาเสียงในการลงสมัครครั้งนี้ในเขต 6 ของจังหวัดเชียงรายมีสมาชิกพรรคเพียง 300-400 คนเท่านั้น ผมใช้วิธีการเดินหาเสียงเพื่อให้เข้าถึงประชาชนโดยในแต่ละวันเดินเท้าหาเสียงวันละประมาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งก็ได้บันทึกเอาไว้ว่าการลงพื้นที่หาเสียงในครั้งนี้ ได้ใช้ระยะทางในการเดิน 359 กิโลเมตร
อย่างไรก็ตามหลังจากนี้ไปการจะดำเนินการขับเคลื่อนก็จะเป็นไปตามนโยบายของพรรค เพื่อที่จะทำให้เกิดการเมืองรูปแบบใหม่ โดยการทำงานจะต้องเริ่มจากความเห็นของสมาชิกของพรรคเป็นที่ตั้ง ก่อนจากนั้นจะนำมติไปดำเนินการต่อ เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามขั้นตอน โดยจะเน้นประชาชนเป็นหลักในการทำงาน
ร่วมแสดงความคิดเห็น