ไฟป่าแม่ฮ่องสอนวิกฤติหนักต่อเนื่อง พบจุดไฟป่าสูงถึง 599 จุด ค่าฝุ่นละอองพุ่งสูงในระดับอันตราย

สถานการณ์ไฟป่าวิกฤติหนักอย่างต่อเนื่องล่าสุด พบจุดไฟป่าสูงถึง 599 จุดพบในอำเภอเมืองเกิดไฟป่ามากที่สุดถึง 166 จุด ส่งผลให้ค่ามลพิษ 2.5 ไมครอนพุ่งสูงในระดับอันตรายต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ขณะที่การแก้ไขปัญหาไฟป่าไร้ผล พบผู้ใหญ่ในบ้านเมืองบางคนระบุ ไม่ห่วงสุขภาพห่วงแต่ท่องเที่ยว

เมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2562 กรมควบคุมมลพิษรายงานค่าคุณภาพอากาศบริเวณ ต.จองคำ อ.เมือง, แม่ฮ่องสอน พบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) มีค่า 133 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพ นอกจากนี้ยังพบปริมาณฝุ่นละออง ขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) มีค่า 157 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (µg/m3) อยู่ในเกณฑ์เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ส่วนค่าทัศนวิสัยเช้าวันนี้ 07.00 น. – 1500 เมตร อ.เมือง อุณหภูมิต่ำสุด 18.4 องศา

ด้านศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันไฟป่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน รายงานมาว่า จุดความร้อนประจำวันที่ 26 มีนาคม 2562 จากดาวเทียมระบบเวียร์ เวลา 02.12 พบจุดความร้อน 599 จุด ได้แก่ อ.สบเมย 37 จุด อ.แม่สะเรียง 96 จุด อ.แม่ลาน้อย 74 จุด อ.ขุนยวม 107 จุด อ.เมือง 166 จุด อ.ปางมะผ้า 66 จุด อ.ปาย 53 จุด โดยพบว่าเขตพื้นที่อำเภอเมือง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่า กลับมีการเกิดไฟป่ามากว่าทุกอำเภอ

เมื่อวันที่ 25 มี.ค. 62 เวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา สถานีควบคุมไฟป่าแม่ฮ่องสอน ร่วมกับ ชุดปฏิบัติการหน่วยเสือไฟ กาญจนบุรี แบ่งกำลังเป็น 2 ชุดดับไฟ เข้าร่วมดับไฟ กับชุดดับไฟเครือข่ายฯบ้านหัวน้ำแม่สะกึด บริเวณทิศตะวันออกเฉียงใต้ บ.หัวน้ำแม่สะกึด พิกัด 47Q 0394002 UTM 2130422 สามารถควบคุมไฟได้ ระหว่างเดินทางออกจากจุดเกิดไฟ โดยมีนายภัทรพงษ์ มูลรูปเหมาะ ลูกชุดหน่วยเสือไฟกาญจนบุรี ได้เดินลื่นล้มตกเขา ได้รับบาดเจ็บ โดนกระแทกที่ซี่โครงด้านซ้าย ขณะนี้ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ เพื่อตรวจเช็คร่างกาย

จากปัญหาไฟป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสถานการณ์เข้าสู่ขั้นวิกฤตต่อเนื่องมาหลายสัปดาห์ ทำให้ทางหอการค้า และ เครือข่ายภาคประชาชน และบุคลากรทางการแพทย์และเครือข่ายสาธารณสุขในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เข้ายื่นข้อสรุปจากการระดมความคิดเห็นในการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว ต่อนายสิริรัฐ ชุมอุปการ ผวจ.แม่ฮ่องสอน ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อให้ทางจังหวัดนำไปพิจารณาดำเนินการตามมุมมองของภาคเอกชน ที่เล็งเห็นความจำเป็นเร่งด่วน ที่จะหาทางออกร่วมกับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และต้องการสะท้อนเสียงของคนแม่ฮ่องสอนให้รัฐบาลได้รับรู้ ถึงภาวะที่ประชาชนต้องอดทนต่อภาวะเสี่ยงภัยจากการเกิดไฟป่าและหมอกควัน รวมถึงยอมจำนนต่อความถดถอยของเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบในทุกปีอย่างไม่มีทางเลือก โดยทางจังหวัดแม่ฮ่องสอนได้รับเรื่องไปพิจารณาเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาร่วมกันระหว่างรัฐกับภาคเอกชนและประชาชนแล้ว

อย่างไรก็ตามปัญหาไฟป่าในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ในแต่ละปี มีปัญหาเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและสถานการณ์จะรุนแรงมาน้อยเพียงใด อยู่ที่สภาวะสภาพอากาศในห้วงนั้น ๆ และ การเข้าถึงประชาชน คนอยู่กับป่าเป็นสำคัญ หากทางภาครัฐไม่ให้ความสำคัญต่อภาคประชาชน และมีการจำกัดสิทธิขั้นพื้นฐาน อาทิการจำกัดสิทธิในการเข้าไปหาของป่า การข่มขู่จะจับกุมคนเผาป่า ไฟป่าก็จะเกิดขึ้นอย่างรุนแรง แต่ในทุกปีที่ผ่านมา พบว่า ทางภาครัฐกลับไม่ได้เน้นไปที่ภาคประชาชนแต่เน้นไปที่การใช้งบจำนวนมหาศาลในการป้องกัน การแก้ไขปัญหาไฟป่าจึงไม่สำเร็จและส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและสุขภาพของประชาชนโดยตลอด บางครั้ง ข้าราชการระดับสูงที่ถูกส่งมาดูแลและแก้ไขปัญหาให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอน กลับไม่ให้ความสำคัญต่อปัญหาและผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเน้นไปที่ผลกระทบกับการท่องเที่ยว และพยายามไม่อยากให้สื่อนำเสนอข่าวออกไป ทั้งที่ปัจจุบัน สื่อโซเชียลมีทั่วทุกหัวระแหงและต่างนำเสนอข่าวออกไปโดยไร้ทิศทาง หากทางจังหวัดมีการควบคุมและนำเสนอข้อมูลข่าวสารที่เป็นจริงออกไป รวมไปถึงการแสดงให้เห็นว่าสามารถควบคุมและแก้ไขปัญหาไฟป่าได้อย่างเป็นรูปธรรม จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและพากันมาท่องเที่ยวต่อไป

ร่วมแสดงความคิดเห็น