เสนอห้ามรถผ่าน ถนนข้างวิหารวัดสะดือเมือง เชียงใหม่

ถนนอินทรวโรรส ในเขตนครเชียงใหม่ เทิดพระนาม เจ้าหลวงเชียงใหม่องค์ที่ 8 “เจ้าอินทวโรรสสุริยวงศ์ ดำรงนพีสีนคร สุนทรทศลักษ์เกษตร วรฤทธิเดชดำรง จำนงยุติธรรมสุจริต วิศิษฐ์สัตยธาดา มหาโยนางคราชวงศาธิบดี”

เป็นถนนคั่นกลางระหว่างวิหารหลวงพ่อขาว วัดอินทขีลสะดือเมือง กับกำแพงรั้วหอศิลปวฒนธรรมเมืองเชียงใหม่ ซึ่งด้านข้างจะมีเจดีย์รายทรงมณฑป 8 เหลี่ยม อยู่เยื้องๆลานราชานุสาวรีย์ 3 กษัตริย์ เป็นวัดสำคัญที่มีอิทธิผลต่อเจตคติความเชื่อว่าคือ ส่วนกลางของร่างกายมนุษย์ เดิมวัดนี้เป็นวัดที่พญามังรายมหาราช ปฐมกษัตริย์ ล้านนาทรงสร้างขึ้นเมื่อปี พศ.1835 เป็นที่ประดิษฐานเสาหลักเมือง ก่อนจะย้ายไปที่วิหารด้านหน้า วัดเจดีย์หลวง ในปีพศ.2343 บางตำนานอ้างความสำคัญอีกมุมว่า บริเวณวิหารหลวงพ่อขาว อาจเป็นที่พระองค์ต้องอสุนียบาต (ฟ้าผ่า) ด้วยซ้ำไป (ในขณะที่บางตำนาน ยังยึดโยงบริเวณกลางเวียง เชียงใหม่ ที่มีอนุสรณ์สถานปรากฎอยู่ในปัจจุบัน)

ต่อมาถูกพัฒนาจากวัดร้าง เป็นวัดมีพระจำพรรษา อาคารพิพิทธภัณฑ์ปัจจุบันเคยเป็นอาคาร อบจ.เชียงใหม่และ ตรงข้ามคือศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนที่จะย้ายออกไปอยู่ศูนย์ราชการ ย่านโชตนาในวันนี้ วิหารหลวงพ่อขาว หลังเก่าที่มีอายุร่วม 700 ปีทรุดโทรม ถูกรื้อและออกแบบก่อสร้างใหม่โดย รุ่ง จันตาบุญ ผู้ออกแบบหอคำหลวง ในอุทยานราชพฤกษ์ สถานที่จัดงานพืชสวนโลก สถาปัตยกรรมล้านนาร่วมสมัยสวยงามหลังใหม่ มีพิธีวางศิลาฤกษ์ เมื่อ 22 กค.2550 ก่อสร้างด้วยงบบริจาค สิบกว่าล้านบาท

ก่อนที่จะสร้างวิหารหลังนี้ เคยมีการหารือเกี่ยวกับแนวเขตวิหารที่ต้องรุกล้ำลงไปในถนนอินทรวโรรส กว่า 4 เมตร เคยถกกันเครียดถึงแนวคิดที่จะปิดการสัญจร ของยวดยานต่างๆ แต่คงสภาพถนนที่มีพื้นเป็นตัวหนอน ให้ผู้คนสัญจรผ่านไปมาและทุบบาทวิถีตลอดแนวกำแพงด้านหอศิลปวัฒนธรรม เชียงใหม่ หรือศาลากลางเก่าอกไป เพื่อขยายถนนให้กว้างขึ้น

นักวิชาการผังเมืองและสถาปนิกล้านนา เชียงใหม่ ระบุว่าในอดีตเคยมีการนำเสนอ ให้เป็นเพียงทางเดินสัญจร ไม่ควรมียานพาหนะผ่าน มีการขอทดลองใช้จนล่วงเลยมาร่วม 10 ปี ตั้งแต่ สร้างวิหารหลังนี้แล้วเสร็จจนเงียบไป แม้จะห้ามรถบัส รถขนาดใหญ่ผ่าน บ่อยครั้ง ก็ยังมีรถเกือบทุกประเภท ใช้ถนนสายนี้ มีการเก็บข้อมูล มีผลกระทบรอยปริร้าว ผนังบางส่วน ผู้คนรับรู้แรงสั่นไหวขณะกราบไหว้พระแล้วยวดยานสัญจรผ่านไปมา

ปัจจุบันเป็นเวลาร่วม 10 ปีที่ นักประวัติศาสตร์ท้องถิ่น ตลอดจน กลุ่มอนุรักษ์ ประชาชนชาวเชียงใหม่กังวลและห่วงใย สภาพความหนาแน่นในการสัญจร ผ่านวิหารหลวงพ่อขาว จะมีผลต่อโครงสร้างฐานรากของวิหาร เกิดอุบัตุเหตุเฉี่ยวชนวิหาร ขณะนี้หลายภาคส่วน พยายามนำเสนอแนวคิดการห้ามยานยนต์ ใช้เส้นทางควรนำร่องเป็นทางสัญจรที่ผู้คนเดินผ่านไปมาได้เท่านั้น หรือต้องรอให้เกิดอุบัติเหตุ รถ เฉี่ยวชน ทำลายความงามของวิหารหลังนี้ก่อนจะลงมือล้อมคอก ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทในการใช้ถนนได้

ร่วมแสดงความคิดเห็น