คืบหน้าจับนายพราน และขบวนการค้าสัตว์ป่าในพื้นที่อำเภอเชียงดาวเจ้าหน้าที่เร่งนำซากเนื้อและซากสัตว์สงวน ส่งพิสูจน์พร้อมเร่งขยายผล

คืบหน้าจับนายพรานและขบวนการค้าสัตว์ป่าในพื้นที่อำเภอเชียงดาวเจ้าหน้าที่เร่งนำซากเนื้อและซากสัตว์สงวนส่งพิสูจน์พร้อมเร่งขยายผลหาเครือข่ายที่เชื่อมโยงคาดเป็นต้นเหตุ การเกิดไฟป่าในพื้นที่ดอยหลวงเชียงดาว และ ดอยนาง

เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตวป่าเชียงดาวเดินทางมาตรวจสอบ ซากสัตว์และซากเนื้อเลียงผา และนกเขา ที่สถานีตำรวจภูธรเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่เพื่อนำไปไปตรวจพิสูจน์ซาก หลังจากเมื่อเช้ามืดวันนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังร่วมกับตำรวจ สภ.เชียงดาว /ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่5 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบุกเข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 จุด ในอำเภอเชียงดาว ที่มีสวนเชื่อมโยงกับล่าสัตว์และค้าสัตว์ป่า จุดแรกเข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 34หมู่5 ตำบลเชียงดาว ซึ่งเป็นบ้านของ นายศักชัยหรือแอร์ อายุ51ปี

จากการตรวจค้นภายในบ้านพักพบปืนลูกซองเดี่ยวยาว 1กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน13นัดซุกซ่อนอยู่ภายในรถยนต์ หมายเลขทะเบียน ผท 8748 เชียงใหม่ หนังซากสัตว์เลียงผา/ซากเนื้อเลียงผา/ซากนกเขา/ซากเขาเก้ง ก่อนจะควบคุมตัวมาดำเนินคดี ก่อน

จุดที่สอง บริเวณบ้านเลขที่ 5 หมู่ 5 ตำบลเชียงดาว เป็นบ้านของนายนายบุญทอง ธาตุคำ อายุ 55 ปี จากการเข้าตรวจค้นพบ อาวุธปืนยาว ขนาด .22 ยี่ห้อ CZ ทะเบียน กท. 140633 จำนวน 1 กระบอก กระสุนปืนขนาด .22 จำนวน 62 นัด /.เลื่อยโซ่ไฟฟ้า ขนาดบาร์ ยาว 66 เซนติเมตร นายประกาศิต ระวิวรรณ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว เปิดเผยว่า การตรวจค้นครั้งนี้สืบเนื่องจากขณะที่เจ้าหน้าที่ดับไฟป่าบนดอยหลวงเชียงดาวอยู่นั้นได้ยินเสียงปืนคาดว่าจะเป็นการล่าสัตว์ป่า ปัญหาการลักลอบจุดไฟเผาป่าเพื่อล่าสัตว์ในพื้นทีดอยหลวงเชียงดาวและดอยนางจนทำให้เกิดปัญหาหมอกควันที่เป็นมลพิษ พื้นที่ป่าเสียหายและสัตว์ป่าตายประกอบกับมีรายชื่อผู้ค้าผู้ล่าอยู่แล้วจึงนำกำลังเข้าตรวจค้นจนพบของกลางทั้งปืนและซากสัตว์และซากเนื้อสัตว์ป่าสวงนจำนวนมาก

เบื้องต้นตำรวจได้ตั้งข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย,มีซากสัตว์ป่าสงวนคุ้มครองไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต แต่ผู้ต้องหาทั้งสองรายยังให้การภาคเสธ โดยอ้างว่ามีคนนำมาจำหน่ายให้เห็นว่าราคาถูกจึงรับซื้อไว้

ร่วมแสดงความคิดเห็น