ศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน ช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2562 ระบุว่า อุบัติเหตุช่วง 11 – 17 เม.ย.61 เกิดอุบัติเหตุรวม 3,724 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 418 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,897 คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติ เหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.28 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ รถจักรยานยนต์ 79.85 % จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด 133 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด 142 คน คือเชียงใหม่ (142 คน)
ด้าน นส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผอ.สำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวว่า แต่ละปีมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากกว่า 2 หมื่นคนต่อปี หรือวันละกว่า 60 ศพ สาเหตุหลักดื่มแล้วขับ ซึ่งการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แล้วขับรถ ส่งผลให้ประสิทธิภาพการขับรถลดลง มีโอกาสเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุขึ้นเป็น 2 เท่า
ข้อมูลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ที่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเทศกาลสงกรานต์ ตั้งแต่ปี 2559-61 มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการดื่ม 23,954 คน เฉลี่ยปีละ 7,985 คน มูลค่าความสูญเสียคิดเป็น 4,762 ล้านบาท เฉลี่ยปีละ 1,587 ล้านบาท และผู้เสียชีวิตขับขี่รถจักรยานยนต์ เกือบ 50%
จากการตรวจสอบอุบัติเหตุตั้งแต่ 1 ม.ค.62-ปัจจุบันพบว่าเกิดเหตุสะสม 307,495 ครั้งทั่วประเทศ มีผู้บาดเจ็บ 302,904 ราย เสียชีวิตแล้ว 4,591 คน เฉลี่ยวันละ 50 ราย
เครือข่ายลดอุบัติเหตุ (สคอ.)แถลงสื่อว่า ทุกช่วงเทศกาลประชาชนต้องเพิ่มความระมัดระวังในการขับรถ เพราะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุจากผู้ร่วมใช้เส้นทางที่ดื่มแล้วขับ ซึ่งผู้ที่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายเกิน 50 มก.% มีอัตราโทษจำคุก 1 ปี ปรับ 1-2 หมื่นบาทหรือทั้งจำและปรับ พักหรือเพิกถอนใบอนุญาต 6 เดือนเมาแล้วขับเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จำคุก 3-10 ปี ปรับ 6 หมื่น-2แสน บาท หรือทั้งจำและปรับ เพิกถอนใบอนุญาต และถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 150 มก.% ศาลจะสั่งใช้กำไลคุมประพฤติทันที และห้ามออกนอกบ้านในยามวิกาลด้วย
ร่วมแสดงความคิดเห็น