กรมอนามัย แนะพ่อแม่ใส่ใจแปรงฟันลูก พาพบหมอฟันตั้งแต่ขึ้นซี่แรก ป้องกันเด็กฟันผุ

กรมอนามัย ชวนพ่อแม่ ผู้ปกครอง ทำความสะอาดช่องปากให้ทารก และแปรงฟันลูกตั้งแต่ฟันขึ้นซี่แรก โดยใช้ยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ป้องกันฟันผุ พร้อมพบทันตแพทย์ เพื่อตรวจฟันทุก 6 เดือน

พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีเด็กอายุ 4 ปีฟันผุ 18 ซี่จาก 20 ซี่ ซึ่งต้องได้รับการรักษาโดยการถอนฟันทั้งหมด 18 ซี่ ภายใต้การดมยาสลบนั้น สำหรับการเกิดฟันผุในเด็กปฐมวัยเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ โดยหลักคือพฤติกรรมการรับประทานอาหารจุบจิบ โดยเฉพาะอาหารประเภทน้ำตาล และแป้ง รวมถึงการละเลยการทำความสะอาดช่องปาก ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดฟันผุ ผู้ปกครองควรแปรงฟันให้เด็กตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ วันละ 2 ครั้ง เช้าและก่อนนอน ร่วมกับการจำกัดการรับประทานขนมหวาน น้ำหวาน นมหวาน นอกมื้ออาหารหลักไม่ให้เกิน 2 ครั้งต่อวัน และไปพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอทุก 6 เดือน

ทางด้าน ทพญ.ปิยะดา ประเสริฐสม ผู้อำนวยการ สำนักทันตสาธารณสุข กล่าวเสริมว่า เด็กควรพบทันตแพทย์ตั้งแต่ฟันซี่แรกขึ้น หรือไม่เกินอายุ 1 ปี และมาตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจฟัน รับคำแนะนำจากทันตแพทย์ และเคลือบฟลูออไรด์ตามความเหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ปกครองสามารถตรวจฟันลูกได้เองเบื้องต้น หากพบลักษณะสีขาวขุ่นบริเวณคอฟัน ซึ่งเป็นรอยฟันผุระยะเริ่มต้น แสดงว่าเด็กมีความเสี่ยงในการเกิดฟันผุสูง เป็นช่วงวิกฤติก่อนที่รอยโรคเหล่านี้จะลุกลามเป็นรูผุ จนจำเป็นต้องรับการรักษาโดยการอุดฟัน ผู้ปกครองสามารถช่วยหยุดการลุกลามได้ด้วยตนเอง โดยการแปรงฟันให้ลูกให้สะอาด เน้นบริเวณคอฟันด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์ 1,000 ppm โดยความดูแลของผู้ปกครองอย่างใกล้ชิด

“ผู้ปกครองต้องเป็นผู้บีบยาสีฟันให้เด็ก ไม่ให้เด็กบีบยาสีฟันเอง เด็กที่มีอายุต่ำว่า 3 ปี ควรใช้ปริมาณยาสีฟันแค่แตะแปรงพอชื้น เด็กอายุ 3 – 6 ปี ควรบีบยาสีฟันขนาดเท่าเมล็ดถั่วลันเตา หรือตามความกว้างของแปรง และเด็กที่มีอายุตั้งแต่ 6 ปีขึ้นไป บีบยาสีฟันตามความยาวของหัวแปรงได้ เมื่อแปรงฟันเสร็จแล้วใช้ ผ้าสะอาดชุบน้ำเพื่อเช็ดฟองยาสีฟันออก โดยไม่จำเป็นต้องบ้วนน้ำ

หากพบจุดสีดำหรือสีน้ำตาลบนผิวฟันหรือพบรูฟันผุ ควรไปพบทันตแพทย์เพื่อรับการรักษาที่เหมาะสม ก่อนที่รูผุจะลุกลามจนทำให้เกิดการติดเชื้อจนเด็กปวดฟัน นอกจากนี้ พ่อแม่ผู้ปกครอง ควรใส่ใจในการเลือกขนาดของแปรงสีฟันที่เหมาะสมกับช่วงอายุของเด็ก และผ่านเกณฑ์มาตรฐานกรมอนามัย หรือแปรงสีฟันติดดาว” ผู้อำนวยการ สำนักทันตสาธารณสุข กล่าว

ร่วมแสดงความคิดเห็น